ตลาดหุ้นสหรัฐรอดูสถานการณ์จีน-สหรัฐขัดแย้ง ดาวโจนส์ติดลบเล็กน้อย 8.96จุด

  • นักลงทุนขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนเพื่อลดความเสี่ยง
  • สหรัฐออกกฎหมายใหม่ ส่งผลให้บริษัทสัญชาติจีนในตลาดหุ้นสหรัฐอาจถูกเพิกถอน
  • ราคาน้ำมันร่วง กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 22 พ.ค.ที่ 24,465.16 จุด ลดลง 8.96 จุด หรือ -0.04% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,324.59 จุด เพิ่มขึ้น 39.71 จุด หรือ +0.43% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,955.45 จุด เพิ่มขึ้น 6.94 จุด, +0.24%

นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้ลดความเสี่ยงการลงทุนในหุ้น และกันไปลงทุนในทอง ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ว่า สหรัฐจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวกับแผนการของจีนที่จะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง และความตึงเครียดดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่าง 2 ประเทศ

ขณะที่นายหวัง เฉิน รองประธานคณะกรรมาธิการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ได้เสนอกฎหมายใหม่ในวันศุกร์ (22 พ.ค.) ที่ระบุให้ฮ่องกงต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติโดยเร็วภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับย่อซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง

นอกจากนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทและสถาบันของจีนอีก 33 แห่ง เนื่องจากกระทำการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชน และเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ

ตลาดยังได้รับแรงกดดันต่อเนื่อง จากความกังวลต่อสถานะบริษัทจีนในตลาดหุ้นสหรัฐ วุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาให้ผ่านร่างกฎหมาย “Holding Foreign Companies Accountable Act” ซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกเพิกถอนออกจากตลาด

นักลงทุนขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนเพื่อลดความเสี่ยง โดยหุ้นอาลีบาบา ร่วงลงเกือบ 6% แม้รายงานผลกำไรรายไตรมาสเพิ่มขึ้นเกินคาดก็ตาม ขณะเดียวกัน ยังขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันร่วงลง โดยหุ้นเชฟรอน ร่วง 1.9%