- เผยทีมแพทย์ประเมินอาการ “อนุทิน” มีอาการไม่มาก ให้ดูแลรักษาอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 5-7 วัน
- ชี้ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสายพันธุ์ที่ติดเชื้อได้ ต้องใช้เวลา 1 สัปดาห์ ในการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ
- ชี้แผนปลดล็อก “โควิด-19” สู่โรคประจำถิ่นยังอยู่ในแผน
- ลั่นขอรอดูสถานการณ์อีกระยะ เนื่องจากพบการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 – BA.5 ขอดูอีก 1-2 สัปดาห์
วันนี้ (28 มิ.ย.65) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 หลังเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ต่างประเทศว่าภายหลังจากที่นายอนุทินเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ก็ได้มีการตรวจด้วยชุดเอทีเค ซึ่งพบว่าติดเชื้อ จากนั้นจึงได้ไปตรวจยืนยันด้วยระบบ RT-PCR ซึ่งผลก็ยืนยันออกมาว่าเป็นบวก
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า นายอนุทินแจ้งความประสงค์ที่จะรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ขณะที่ทีมแพทย์เห็นว่านายอนุทินมีอาการไม่มาก จึงให้ดูแลรักษาอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 5-7 วัน แต่ก็มีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ได้ให้นายอนุทินรับประทานยาโมนูลพิราเวียร์
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายอนุทินได้รับการฉีดวัคซีนหลายเข็มแล้ว แต่ยังติดเชื้อ ทำให้หลายคนเกิดความกังวลต่อประสิทธิภาพของวัคซีน โดยเรื่องนี้ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าวัคซีนที่ฉีดยังมีประสิทธิภาพ เมื่อฉีดแล้วก็สามารถติดเชื้อได้ แต่จะช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีอาการไม่มาก
ทั้งนี้เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้มีการตรวจรหัสพันธุกรรมหรือไม่ว่า นายอนุทินติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใด นพ.เกียรติภูมิไ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการตรวจสายพันธุ์ เพราะการตรวจหาสายพันธุ์จะต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่จากนี้จะมีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจอยู่แล้ว
“อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าขณะนี้นายอนุทินยังสุขภาพแข็งแรงดี จากการที่ตนได้โทรศัพท์พูดคุย ก็เห็นว่านายอนุทินแข็งแรงดี มีเสียงอู้อี้เล็กน้อย สมองท่านยังดีมาก ยังสามารถทำงานและสั่งข้อราชการต่าง ๆ ได้ตามปกติ” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
นอกจากนี้เมื่อถามต่อว่า ผู้ที่ร่วมคณะเดินทางไปปฏิบัติราชการต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่าเป็นข้อมูลส่วนตัว แต่หลายคนพ้นระยะกักตัวเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ที่ยังอยู่ในระยะที่ต้องเฝ้าสังเกตนั้น ขณะนี้ตรวจแล้วก็ยังไม่มีใครติดเชื้อ
รวมถึงมีข้อสอบถามด้วยว่า ขณะนี้มีรายงานผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทวีปยุโรป ตรวจพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นนั้น นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้โรคโควิด-19 กำลังเดินเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งยังมีการติดเชื้อได้ แต่ส่วนใหญ่จะอาการไม่รุนแรง สามารถดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ หรือดูแลตัวเองที่บ้าน หากใครมีอาการมาก ก็จะเข้ารับการดูแลในโรงพยาบาลเข้าสู่ในระบบ แต่จากข้อมูลตอนนี้ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์การประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นของไทยยังเหมือนเดิมหรือไม่ นพ. เกียรติภูมิ กล่าวตอบว่า ขั้นตอนยังอยู่ในแผน โดยกำลังรอดูสถานการณ์อีกสักระยะ เนื่องจากพบการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 จึงขอดูสายพันธุ์ตรงนี้ 1-2 สัปดาห์ก่อน อีกทั้งต้องมีการปรึกษาหารือกันอีกครั้ง ซึ่งถ้าเห็นว่าไม่ได้มีผลกระทบกับประเทศไทยมาก และทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ สาธารณสุขก็จะเดินหน้าตามแผนที่จะประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นต่อไป
