ดีป้า-USTDA สานต่อความร่วมมือระหว่างประเทศขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะประเทศไทย

  • ปั้นโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีจังหวัดภูเก็ต
  • ยกระดับความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่
  • รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ต

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า(ดีป้า)​ เปิดเผยหลังการลงนามข้อตกลงโครงการความร่วมมือ Phuket Smart City Technical Assistant Package กับนางเกว็นโดลิน เจ. คาร์ดโน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ว่า ดีป้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนและพัฒนาเมืองอัจฉริยะแห่งชาติ ถือเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกา และ สำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย ที่ปัจจุบันอยู่ในการดำเนินงานของ ดีป้า มีการดำเนินงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลไกต่าง ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยี ศึกษาดูงาน ร่วมศึกษาค้นคว้า และสร้างเสริมศักยภาพบุคลากร ซึ่งการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ Phuket Smart City Technical Assistant Package ในครั้งนี้นับเป็นอีกครั้งที่สหรัฐฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับการพัฒนาของเมือง ซึ่งเป็นแกนกลางในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมถึงภูมิภาค จึงได้ร่วมลงทุนพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาของเมืองที่ใช้ความต้องการของคนเป็นศูนย์กลางและเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ต

“นอกจากการร่วมลงทุนแล้ว USTDA จะช่วยพัฒนาข้อกำหนดทางเทคนิคและกลยุทธ์สำหรับการยกระดับแพลตฟอร์มจัดเก็บและบริหารข้อมูลเมืองภูเก็ต (Phuket City Data Platform) ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการบริหารเมืองและการให้บริการประชาชน โดยจะมุ่งเน้นที่การเสริมสร้างศักยภาพศูนย์บัญชาการและรวบรวมข้อมูล (Command Center) ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) สำคัญของภูเก็ต รวมถึงระบบควบคุมการจราจรและการแจ้งเหตุฉุกเฉิน โครงข่ายไฟเบอร์ออปติก เซิร์ฟเวอร์ข้อมูล การโอนย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และเครือข่าย 5G เป็นต้น” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

ด้านนางเกว็นโดลิน เจ. คาร์ดโน ประเทศไทยมีทั้งเป้าหมายหลักและหน่วยงานรับผิดชอบในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศที่ชัดเจน USTDA มีความภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานรับผิดชอบนั่นคือ ดีป้า รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดปรับใช้แนวทางการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีที่สมัย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประชาชนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 10 ล้านคนที่มาเยือนในแต่ละปี นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและบริการจากสหรัฐฯ ที่ตรงตามความต้องการของภูเก็ตอีกด้วย

นอกจากนี้นางเกว็นโดลิน เจ. คาร์ดโน ยังได้กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งผลการดำเนินงานที่แสดงให้เห็นว่า ความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และ ไทยจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล และก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงแก่คนไทย ขณะเดียวกันยังช่วยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ชาญฉลาด และมีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งสหรัฐฯเชื่อว่า การพัฒนาทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรมการบ่มเพาะนวัตกรรมของสหรัฐฯ ที่จะเป็นส่วนช่วยสำคัญให้ประเทศไทยสามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์และประสบความสำเร็จในยุคของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้

ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดบนเกาะทางใต้ของไทยในทะเลอันดามัน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคนทุกปี อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 26 ประเทศสมาชิกทางการของเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน (ASEAN Smart Cities Network: ASCN) เวทีความร่วมมือของบรรดาเมืองจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนที่ทำงานร่วมกัน เพื่อเป้าหมายการพัฒนาเมืองที่ชาญฉลาดและยั่งยืน

สำหรับการลงนามข้อตกลงโครงการความร่วมมือ Phuket Smart City Technical Assistant Package จะช่วยให้เป้าหมายของกรอบความร่วมมือ Partnership for Global Infrastructure and Investment (PGII) รุดหน้า ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาและนำเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยมาใช้ในการเร่งอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกทั้งช่วยให้เกิดสังคมดิจิทัลที่เปิดกว้างในอนาคต