ดาวโจนส์ แกว่งตัวแดนลบ ไม่มั่นใจตัวเลข ว่างงานพุ่ง-มีความหวังเปิดเศรษฐกิจ 1 พ.ค.

  • ตัวเลขว่างางงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.245 ล้านราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • ทรัมป์ ระบุว่า “เปิดเศรษฐกิจในบางรัฐเร็วกว่ารัฐอื่น เส้นตายวันที่ 1 พ.ค.
  • นักลงทุนจับตาการทยอยเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 23,377.09 จุดลดลง
127.26 จุด หรือ -0.54% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 8,497.51 จุด เพิ่มขึ้น 104.34 จุด หรือ +1.24% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 2,791.47 จุด บวก 8.11 จุด หรือ +0.29%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังอยู่ในทิศทางแกว่งตัวในแดนลบ และบวก นักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงวิตกสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวม หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.245 ล้านราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5 ล้านราย อย่างไรก็ตาม ต่ำกว่าในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.615 ล้านราย และเมื่อรวมตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่มีการรายงานในวันนี้รวมกับ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่า 22 ล้านราย

การพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก ขณะที่ตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 2.568 ล้านราย สู่ระดับ 6.066 ล้านราย

อย่างไรก็ตาม ตลาดติดตามถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงแนวทางการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ โดยก่อนหน้านี้ โดยเขาระบุว่า “เราจะเปิดเศรษฐกิจในบางรัฐเร็วกว่ารัฐอื่น โดยเราคิดว่าบางรัฐสามารถเปิดเศรษฐกิจก่อนเส้นตายวันที่ 1 พ.ค.” และยืนยันว่า เขาเป็นผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวในการสั่งยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งรวมถึงการยกเลิกคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านทั่วทุกรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนบางส่วนมีความหวังเพิ่มขึ้น

ด้านผู้ว่าการของ 6 รัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงรัฐนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ ได้ประกาศว่าจะจัดตั้งคณะทำงานของตนเอง เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมีแผนร่วมกันในการเปิดเศรษฐกิจบางส่วน

นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยมอร์แกน สแตนลีย์ เป็นธนาคารแห่งล่าสุดที่เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 1 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 22.3% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.2 ล้านยูนิต จากระดับ 1.56 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. ทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2527 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวลดลง 17.5% ส่วนการก่อสร้างบ้านสำหรับหลายครอบครัว รวมถึง อพาร์ทเมนท์และคอนโดมิเนียม ดิ่งลง 32.1% นอกจากนี้ การอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 6.8% ในเดือนมี.ค.