ดาวโจนส์ แกว่งตัวแดนลบ กว่า 40 จุด ตัวเลขว่างงานยังพุ่ง


.ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ 853,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
.ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการของ FDA สหรัฐ อนุมัติใช้วัคซีนต้านโควิด-19
.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ยังคงขัดแย้ง นักลงทุนผิดหวังออกล่าช้ากว่าที่คาด

เมื่อเวลา 22.20 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,027.87 จุด ลดลง 40.94 จุด หรือ -0.14% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,398.03 จุด เพิ่มขึ้น 59.08 จุด หรือ +0.48% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,674.23 จุด เพ่ิมขึ้น 1.41 /จุด หรือ +0.04%

ตัวเลขคนว่างงานยังคงไม่นิ่ง โดยล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โโยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ 853,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 137,000 รายจากระดับ 716,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 725,000 ราย เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายรัฐต้องกลับมาคุมเข้มหรือล็อกดาวน์ และทำให้ภาคธุรกิจที่กำลังเริ่มจะฟื้นต้องกลับมาหยุดชะงักอีก

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกดีดกลับขึ้นมาอยู่ที่เหนือระดับ 800,000 รายอีกครั้ง หลังจากที่อยู่ต่ำกว่า 800,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า จากที่เคยพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.9 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ภาคธุรกิจปิดกิจการ และมีการปลดพนักงานจำนวนมาก

ด้านดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากทรงตัวในเดือนต.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. ได้แรงหนุนจากราคาห้องพักโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน และเสื้อผ้าที่พุ่งขึ้น แม้ราคาสินค้าและบริการโดยรวมยังซบเซา เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมในภาคส่วนต่างๆ

เทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 1.2% ในเดือนพ.ย. เท่ากับการเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. สูงกว่าเล็กน้อยที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบรายปี ด้านดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.6% เช่นกันในเดือนต.ค.

นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังมีแรงเทขายออกมาวานนี้ ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการของ FDA สหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยที่ประชุมจะพิจารณาคุณสมบัติของวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ ซึ่งหากคณะกรรมการเห็นพ้องให้การอนุมัติวัคซีนดังกล่าว FDA ก็จะประกาศการอนุมัติอย่างเป็นทางการในเวลาต่อไป นอกจากนั้น ยังติดตามการเจรจาเพื่อตกลงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่ล่าช้ามาค่อนข้างนานแล้ว