“ดาวโจนส์” เปิดในแดนบวก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีแนวโน้มตกลงกันได้

  • ตลาดติดตามความคืบหน้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • นายโจ แมนชิน วุฒิสมาชิก คาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะแล้วเสร็จ 90%
  • นักลงทุนขานรับหันออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยง

เมื่อเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เปิดตลาดในแดนบวก โดยเคลื่อนไหวที่ระดับ 30,218.15 จุด เพิ่มขึ้น 44.27 จุด หรือ +0.15% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,579.91จุด ลดลงเล็กน้อย 2.86 จุด หรือ-0.02% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,705.85 จุด เพิ่มขึ้น 3.60 จุด หรือ +0.10%

นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแกนนำของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐได้หารือกันวานนี้เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการจัดสรรเงินช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้มีการจัดสรรเงินสนับสนุนรัฐต่างๆ ในขณะที่พรรครีพับลิกันแสดงท่าทีคัดค้าน

ทั้งนี้ นายโจ แมนชิน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เขาคาดหวังว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถเห็นพ้องกันในวันนี้เกี่ยวกับรายละเอียดส่วนใหญ่ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า “ขณะนี้สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างก็ต้องการบรรลุข้อตกลง ซึ่งเราคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะแล้วเสร็จ 90% ในวันนี้” นายแมนชินกล่าว

ขณะที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาแสดงความหวังว่า สภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์นั

นอกจกากนั้น ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ทำให้ตลาดออกจากตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยทั้งนี้ อังกฤษได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครั้งใหญ่ให้แก่ประชาชนวานนี้ โดยเริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุ และบุคลากรทางการแพทย์ ขณะที่ FDA ของสหรัฐฯ เตรียมอนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ในเร็วๆ นี้เช่นกัน

ทั้งนี้ มีแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากเห็นว่า จะเสียประโยชน์หากมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการใช้วัคซีนต้านโควิด -19 ทำให้ลดมาตรการเว้นระยะห่างที่เข้มงวดลงได้