ดาวโจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 40 จุด กังวลโควิดเดลตาระบาดรอบใหม่

.หุ้นเกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจปรับตัวลง นักลงทุนหวั่นโควิดกลับมาระบาดระลอกใหม่
.ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี ช่วยพยุงดัชนีให้อยู่ในแดนบวก
.ตัวเลขเศรษฐกิจยังดี คำสั่งซื้อภาคโรงงานดีดตัวขึ้น 1.5% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

เมื่อเวลา 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,879.31 จุด เพิ่มขึ้น 41.15 จุด หรือ +0.12% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,629.92 จุด ลดลง 51.15 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,386.94 จุด ลดลงเล็กน้อย 0.22 จุดหรือ -0.01%

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ปรับตัวลดลง หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ค่าเฉลี่ยในรอบ 7 วันของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในสหรัฐอยู่ที่ 72,790 รายเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สูงกว่าระดับ 68,700 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงปรับตัวลงต่อ หลังจากดิ่งลงใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทที่ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว พบว่า 88% มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ อันเดอร์ อาร์เมอร์ ผู้ผลิตเครื่องกีฬาและเสื้อผ้ากีฬารายใหญ่ของสหรัฐ รายงานตัวเลขกำไรและรายได้ประจำไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีกำไร 24 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6 เซนต์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 1.35 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.21 พันล้านดอลลาร์

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาวันนี้อยู่ในทิศทางที่ดี โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐดีดตัวขึ้น 1.5% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากพุ่งขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ค.เทียบรายปี ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานทะยานขึ้น 18.4% ในเดือนมิ.ย.

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย. โดยยอดสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่น และแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ โดยตัวเลขดังกล่าวถือเป็นตัวเลขจ้างงานตัวสุดท้าย ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 926,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่เพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม หากเป็นทางตรงกันข้าม ตัวเลขการจ้างงานออกมาแข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)