ดาวโจนส์แกว่งไร้ทิศทางตลาดวิตกคนตกงาน เพราะพิษโควิด-19 พุ่ง

  • เฟด เซนต์หลุยส์ คาดหากกรณีเลวร้ายอาจะมีคนตกงาน 47 ล้านคนทั่วสหรัฐ
  • ตลาดยังวิตกสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่หยุดง่าย
  • นักลงทุนส่วนหนึ่งหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยบรรเทาผลกระทบ

เมื่อเวลาประมาณ 21.35 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 22,401.26 จุด เพิ่มขึ้น 73.78 จุด หรือ +0.33% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 7,862.48 จุด เพิ่มขึ้น 88.33 จุด หรือ +1.14% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 2,632.76 จุดเพิ่มขึ้น +6.11 จุด หรือ +0.23%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวแคบๆ ตั้งแต่เปิดตลาด ทั้งในแดนบวก และแดนลบ นักลงทุนยังคงวิตกต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วทั่วสหรัฐฯ โดย ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 164,435 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3,175 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 801,117 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 38,771 ราย

ยังไม่นับวันนี้ที่เป็นวันสุดท้ายของเดือน มี.ค. ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงไปแล้ว 12% ในเดือนนี้ ทำสถิติเป็นเดือนที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2551

นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 21.8% หรือประมาณ 3,800 จุด ในไตรมาสแรก ทำสถิติเป็นไตรมาสที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 และเป็นไตรมาสแรกที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันจำนวนหลายล้านคนได้ถูกปลดออกจากงานในขณะนี้ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เฟดคาดการณ์ว่าภาคธุรกิจสหรัฐมีการปลดพนักงานรวม 47 ล้านคน ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 32.1% ในขณะที่โกลด์แมน ซาร์ส ระบุว่าในช่วงครึ่งปีแรก อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ่นไปอยู่ที่ระดับ 15%

ขณะที่นักลงทุนจำนวนหนึ่งยังมีความหวังกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2 ล้านล้านเหรียญฯ ของรัฐบาลว่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจ และบรรเทาผลกระทบของผู้เดือดร้อนได้บ้าง ขณะที่มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจะช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้