ดาวโจนส์เคลื่อนไหวแดนลบ กังวลสหรัฐ-จีนตึงเครียด-โควิด-19 เพิ่มไม่หยุด

  • นักลงทุนยังคงกังวลความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนทวีความตึงเครียด
  • ตลาดจับตาตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สหรัฐพุ่งไม่หยุด เพิ่ม 2,600 รายต่อชั่วโมง
  • นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงเศรษฐกิจเปราะบาง

เมื่อเวลา 21.20 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 26,596.64 จุด ลดลง 55.69 จุด หรือ -0.21%
ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,344.67 จุด ลดลง 116.75 จุด หรือ -1.12% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,221.07 จุด ลดลง 14.59 จุด หรือ -0.45%

นักลงทุนยังคงกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนที่เมืองฮิวสตันภายในวันนี้ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้โดยแจ้งให้สหรัฐปิดสถานกงสุลในเมืองเฉิงตู นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐยังเป็นประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 สูงที่สุดในโลก โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 2,600 รายในแต่ละชั่วโมง

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ วิจารณ์วัผู้นำจีน ในวันนี้ว่าเป็นทรราชที่ก้มหัวให้กับระบอบเผด็จการของโลก ซึ่งทำให้ทิศทางของประเทศมืดมน ซึ่งสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและจีนเพิ่มขึ้น

นักลงทุนยังคงติดตามผลประกอบการของบริษัทชั้นนำที่ทยอยประกาศออกมา โดยนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นแอปเปิลและไมโครซอฟท์ต่อเนื่องจากวานนี้

บริษัทเวอไรซอน คอมมิวนิเคชั่น รายงานตัวเลขกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 โดยได้อานิสงส์จากการที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ชาวสหรัฐต้องทำงานและเรียนที่บ้าน ส่งผลให้มีความต้องการใช้บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ของบริษัทมากขึ้น โดยรายได้ที่ระดับ 3.04 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.993 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 1.18 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.15 ดอลลาร์