ดาวโจนส์ลบกว่า 200 จุด นักลงทุนเทขายทำกำไรหลัง ดัชนีขึ้นมาต่อเนื่อง


. นักลงทุนกังวลประเด็นการค้ากับจีนที่อาจประทุอีกครั้ง หลังมีข่าวจ่อขึ้นบัญชีดำบริษัทจีน
.โมเดอร์นา อิงค์ ยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนต้านโควิด-19 เป็นรายที่ 2 ต่อจากไฟเซอร์
.ไบเดน ระบุเตรียมเสนอ “เจเน็ต เยลเลน”รับตำแหน่งรมว.คลัง

เมื่อเวลา 22.20 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 29,619.35 จุด ลดลง 291.02 จุด หรือ -0.97% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,167.46 จุด ลดลง 38.39 จุด หรือ -0.31% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,619.61 จุด ลดลง 18.74 จุด หรือ -0.52%

ตลาดหุ้นสหรัฐถูกแรงเทขายเพื่อทำกำไร และลดความเสี่ยง หลังจากดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา หลังข่าววัคซีน และการขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของนายโจ ไบเดน

ขณะเดียวกัน นักลงทุนกังวลประเด็นการค้ากับจีนที่อาจประทุขึ้นอีกครั้ง โดยสื่อรายงานว่า สหรัฐเตรียมขึ้นบัญชีดำบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน (SMIC) และไชน่า เนชั่นแนล ออฟชอร์ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น (CNOOC) โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้เป็นของกองทัพจีน หลังจากก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันลงทุนในบริษัทจีนที่ถูกครอบครองและควบคุมโดยกองทัพจีน

นอกจากนั้น ยังมีแรงขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง นอกจากนั้น นักลงทุนกังวลตัวเลขผู้ติดเชื้อของสหรัฐฯ ที่ยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมากต่อวันต่อเนื่อง

ขณะที่ข่าวดียังคงเป็นความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19 โดยโมเดอร์นา อิงค์ แถลงว่า ทางบริษัทเตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในวันนี้ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ 94.1% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ โมเดอร์นานับเป็นบริษัทยาแห่งที่ 2 ที่ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินต่อทาง FDA หลังจากที่ไฟเซอร์ อิงค์ได้ยื่นเรื่องก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 พ.ย. และหากได้รับอนุมัติ ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนของโมเดอร์นาในเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์จากนั้น

ขณะเดียวกัน ยังมีข่าวดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า เขาได้เสนอชื่อนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐ และหากได้รับการยืนยันจากวุฒิสภา นางเยลเลนจะเป็นสตรีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐในรอบ 231 ปี

นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งจะเข้าทำการชี้แจงรายไตรมาสต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้เกี่ยวกับการดำเนินการของเฟดและรัฐบาลสหรัฐในการเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

การชี้แจงดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่นายมนูชินได้ตัดสินใจก่อนหน้านี้ที่จะไม่ต่ออายุโครงการเงินกู้ของเฟดสำหรับการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 วงเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ ที่จะหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค.