ดาวโจนส์ลดลงกว่า 350 จุด จับตาทิศทางเศรษฐกิจ-ดอกเบี้ยเฟด

. นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 3-4 พ.ค.นี้ คาดเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
. ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป พุ่งขึ้น 6.6% ในเดือนมี.ค.
. ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้น 9.8% สู่ระดับ 65.2 ในเดือนเม.ย.

เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,559.47 จุด ลดลง
356.92 จุด หรือ -1.05% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,662.44 จุด ลดลง 209.08 จุดหรือ -1.62% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,222.41 จุด ลดลง 65.09 จุด หรือ -1.52%

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ในวันที่ 3-4 พ.ค. ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. ขณะที่ตลาดยังกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นหลังเดือนพ.ค. โดยอาจปรับขึ้น 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาวันนี้ ทำให้เห็นแนวโน้มการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2525 ขณะที่ส่วนดัชนี PCE ทั่วไป ดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.5% ในเดือนก.พ.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี และต่ำกว่าเล็กน้อยกับตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.3% ขณะที่ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้น 9.8% สู่ระดับ 65.2 ในเดือนเม.ย. โดยได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคต โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลง