ดาวโจนส์ยืนแดนลบ ตัวเลขคนว่างงานพุ่ง 30 ล้านคนจากพิษโควิด-19

  • 6 สัปดาห์ หลังสหรัฐประกาศล็อกดาวน์ ว่างงานพุ่งขึ้นสู่แตะ 30.3 ล้านราย
  • ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน มี.ค.ลดลง 0.3%
  • สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งกว่า 10% รับสัญญาณความต้องการใช้เพิ่มขึ้น

เมื่อเวลา 21.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 24,467.99 จุด ลดลง 165.87 จุด หรือ -0.67% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 8,924.07 เพิ่มขึ้น 9.36 จุด หรือ +0.10% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 2,928.08 จุด ลดลง 11.43 จุด หรือ-0.39%

นักลงทุนผิดหวังเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 3.84 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5 ล้านราย และส่งผลให้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 30.3 ล้านรายภายในเวลา 6 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆในช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค.เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ลดลง 0.3% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. ทำให้เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนมี.ค. ต่ำลงเมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนก.พ.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนก.พ.

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 10% ดีดตัวเหนือระดับ 16 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังมีสัญญาณการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน ขณะที่ภาวะน้ำมันล้นตลาดไม่ได้มีความรุนแรงตามที่คาดการณ์กันไว้ โดยบริษัทไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคัล คอร์ป (ซิโนเปค) เปิดเผยว่า ยอดขายรายวันของผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นของบริษัทได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับมากกว่า 90% ของระดับในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลจะเปิดเผยแผนช่วยเหลือบริษัทน้ำมันสหรัฐ ซึ่งอาจรวมถึงการซื้อน้ำมันเข้าสู่คลังสำรองทางยุทธศาสตร์จำนวนหลายล้านบาร์เรล

ทั้งนี้ ในฝั่งยุโรป ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันนี้ เพียงแต่ระบุว่า ECB จะเพิ่มวงเงิน QE หากมีความจำเป็น แม้สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง 3.8% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลในปี 2538 และรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัว 3.5%

บริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป รายงานตัวเลขกำไรดิ่งลง 17% ในไตรมาสแรก โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปิดร้าน และยอดขายตกต่ำลง โดยบริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.47 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.57 ดอลลาร์/หุ้น