ดาวโจนส์ยืนแดนบวกเพิ่มกว่า 100 จุด สวนตัวเลขแรงงานแข็งแกร่ง

  • .ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 199,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

.นักลงทุนติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์หน้า

  • .ตลาดหุ้นมีแรงซื้อขายผันผวน ปรับตัวทั้งแดนบวกและลบ รอสถานการณ์เปลี่ยนแปลงดันดัชนี

กลงทุนผิดหวัง หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งกว่าคาด ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะช้าลงกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงซื้อเข้ามาสลับกับแรงขาย เพื่อสะสมทำกำไรช่วงปลายปี

เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 36,231.89 จุด เพิ่มขึ้น
114.51 จุด หรือ 0.32%  ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,604.16 จุด เพิ่มขึ้น  18.57 จุด หรือ 0.40%  ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,407.34 จุด เพิ่มขึ้น  67.35 จุด หรือ  0.47% 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 199,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นจากระดับ 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. อัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9% ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.0% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

เมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.4% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด อยู่ที่ระดับ 62.8%

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตั หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า แต่ลดน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนมี.ค.2567 หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาด

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.2% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.2566 และให้น้ำหนัก 92.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค.2567

โดยนักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 47.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.2567 จากเดิมที่ให้น้ำหนัก 55.4% เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 48.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.2567 จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 35.4% เมื่อวานนี้