ดาวโจนส์ยังเปิดต่อในแดนบวกใกล้ 100 จุด ลุ้นมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจ-ข่าวดีคนว่างงาน


.อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.3% ในเดือนม.ค ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาด
.ตลาดลุ้นรัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เร็วๆนี้
.สหรัฐขาดดุลการค้าเดือนม.ค.พุ่งสูงสุดในรอบ 12 ปี

เมื่อเวลา 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,152.86 จุด เพิ่มขึ้น
97.00 จุด หรือ +0.31% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,786.35 จุด เพิ่มขึ้น 8.61 จุด หรือ +0.06% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,879.80 จุด เพิ่มขึ้น 8.06 จุด หรือ +0.21%

ยังคงมีข่าวดีต่อเนื่องในตลาดแรงงาน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 49,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.3% ในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 6.7%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

นอกจากนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 264,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับเป็นลดลง 227,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าลดลง 140,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนม.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 6,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 43,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ลดลงสู่ระดับ 61.4%

นักลงทุนมองมุมบวกว่าตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ แม้เผชิญเสียงท้วงติงจากสมาชิกพรรครีพับลิกันเกี่ยวกับวงเงินที่สูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 17.7% สู่ระดับ 6.787 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อกระแสการค้าทั้งในภาคสินค้าและบริการ

ทั้งนี้ การส่งออกทรุดตัวลง 15.7% ในปี 2563 แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2553 ขณะที่การนำเข้าร่วงลง 9.5% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี