ดาวโจนส์พุ่งทะยานกว่า 700 จุด รับการจ้างงานเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านตำแหน่ง

  • ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงต่ออีก 8.33 ล้านตำแหน่ง
  • นักลงทุนมั่นใจมาตรการคลายล๊อกดาวน์ช่วยลดพิษสะสมของเศรษฐกิจจากโควิด-19
  • ราคาน้ำมันพุ่งต่อคาดกำลังซื้อเพิ่มหลังหลายประเทศเปิดเมือง-โอเปคพลัสจ่อลดกำลังการผลิต

เมื่อเวลา 21.50 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 27,066.98 จุด เพิ่มขึ้น 785.16 จุด หรือ +2.99% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 9,773.79 จุด เพิ่มขึ้น 157.98 จุด หรือ +1.64%ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,187.49 จุด เพิ่มขึ้น 75.14 จุด หรือ +2.41%

ดัชนีดาวโจนส์ทะยานกลับมายืนเหนือระดับ 27,000 จุดอีกครั้ง หลังผลจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งในสหรัฐ ส่งผลให้เกิดเซอร์ไพรส์ในตัวเลขจ้างงาน ซึ่งพุ่งขึ้นมากในเดือน พ.ค.สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้น และส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัว ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการคลายล็อกดาวน์ ขณะที่ราคาน้ำมันที่เพิ่มต่อเนื่อง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานวันนี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 2.5 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าการจ้างงานจะลดลง 8.33 ล้านตำแหน่ง นอกจากนี้ อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 13.3% สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 19.5% โดยภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2,275,000 ตำแหน่ง ขณะที่การจ้างงานในภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง
การพุ่งขึ้นของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพ.ค.เป็นสถิติใหม่ของการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในเดือนเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐในรอบ 81 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2482

ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 4% ในวันนี้ ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะเห็นพ้องกันในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต

นอกจากนี้ ราคาน้ำมัน WTI ยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะทำให้อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้น