ดาวโจนส์พลิกติดลบกังวลเงินฝืด – เฟด ขอผ่านอัตราดอกเบี้ยติดลบกระตุ้นเศรษฐกิจ

  • เฟด ระบุ จะต้องใช้เครื่องมือด้านนโยบายเพิ่มเติมเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นรับว่างงานพุ่ง
  • “พาวเวล” ไปไม่สุดลดดอกเบี้ยขอผ่านไม่ใช้ “อัตราดอกเบี้ยติดลบ”
  • ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดิ่งลง 1.3% ในเดือนเม.ย.จ่อเข้าภาวะเงินฝืด

เมื่อเวลา 21.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 23,606.09 จุด ติดลบ 158.69 จุด หรือ -0.67% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 9,031.45 จุด เพิ่มขึ้น 28.90 จุด หรือ +0.32% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 2,860.61 จุด ลดลง 9.51จุด หรือ -0.33%

ดัชนีดาวโจนส์กลับมาติดลบ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์อยู่ในแดนบวก หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สัน (PIIE) ในวันนี้ โดยระบุว่า เฟดอาจต้องใช้เครื่องมือด้านนโยบายเพิ่มเติมเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่มีจำนวนผู้ตกงานมากกว่า 20 ล้านคนจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

แต่ย่างไรก็ตาม เครื่องมือหนึ่งที่เฟดจะไม่เข้าไปแตะคือการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ “ผมรู้ว่ามีผู้ที่ต้องการให้เฟดใช้นโยบายดังกล่าว แต่ขณะนี้สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะทำการพิจารณา โดยเราคิดว่าเรายังมีเครื่องมือที่ดีที่เราจะใช้ได้” นายพาวเวลกล่าว

ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดิ่งลง 1.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนมี.ค.ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสหรัฐจะเผชิญภาวะเงินฝืดในช่วงสั้นๆ ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบอุปสงค์ และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ร่วงลง 1.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2558 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมี.ค.

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยนักลงทุนคาดว่าผลประกอบการของหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19