- นักลงทุนกังวลโควิด-19ระบาดรอบ2กระทบเศรษฐกิจอีกระลอก
- แอปเปิลประกาศแผนปิดทำการแอปเปิล สโตร์ใน4รัฐที่ผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น
- ตลาดขานรับข่าวดีการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐคืบหน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 19 มิ.ย.ที่ 25,871.46 จุด ร่วงลง 208.64 จุด หรือ -0.80% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,097.74 จุด ลดลง 17.60 จุด หรือ -0.56% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,946.12 จุด เพิ่มขึ้น 3.07 จุด หรือ +0.03%
ในช่วงแรกตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีรายงานข่าวว่า จีนได้ทำตามสัญญาในข้อตกลงการค้าที่ทำไว้กับสหรัฐในเฟสแรก หลังโควิด-19 ในจีนเริ่มมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น โดยได้วางแผนที่จะเร่งการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ
นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายหยาง เจียฉี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของจีน ได้ประชุมร่วมกันที่ฮาวายเมื่อวันพุธที่ผ่านมาโดยจีนจะนำเข้าถั่วเหลืองข้าวโพดและเอทานอล หลังจากที่ชะลอการซื้อสินค้าดังกล่าว จากการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายในตลาดค่อนข้างเบาบางและมีทิศทางผันผวน เนื่องจากเป็นวัน Quadruple Witching Day ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบสัญญาฟิวเจอร์หุ้น, สัญญาฟิวเจอร์ดัชนีหุ้น, ออปชั่นหุ้น และออปชั่นดัชนีหุ้น
นักลงทุนยังคงกังวลผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบสองของโควิด-19 ทั้งในสหรัฐและจีน โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เข้าสู่เฟสใหม่ที่อันตราย
ทั้งนี้ ระหว่างการซื้อขายตลาดหุ้นได้ปรับตัวลง หลังมีรายงานว่าบริษัทแอปเปิลประกาศแผนปิดทำการแอปเปิล สโตร์หลายแห่งเป็นการชั่วคราวในรัฐฟลอริดา, แอริโซนา, เซาท์แคโรไลนา และนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นรัฐที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้หุ้นแอปเปิล ปิดลบ 0.57%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในบางรัฐ ทำให้ตลาดวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐหลังได้รับผลกระทบจากโรคระบาดดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนในการประชุมทางไกลในวันศุกร์ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจากผลกระทบของโควิด-19 นั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย และไม่มีสูตรลัดในการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีการเทขายหุ้นในแทบทุกกลุ่มออกมา
หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการร่วงลงแรง โดยหุ้นนอร์วีเจียน ครุยส์ ไลน์ โฮลดิ้งส์ ร่วง 5.64%, หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วง 5.26% และหุ้นรอยัล แคริบเบียน ร่วง 6.87% หลังจากสมาคมเรือสำราญนานาชาติ ประกาศระงับการเดินเรือโดยสมัครใจจากท่าเรือต่างๆ ในสหรัฐไปจนถึงวันที่ 15 ก.ย. อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่คำสั่งห้ามการเดินเรือในปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 24 ก.ค.นี้
หุ้นเอเอ็มซี เอ็นเทอร์เทนเมนต์ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วง 2% หลังจากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับการใช้มาตรการชัตดาวน์อีกครั้งในสหรัฐ อาจส่งผลกระทบต่อแผนการของบริษัทที่จะเปิดทำการโรงภาพยนตร์ประมาณ 450 แห่งทั่วสหรัฐในเดือนหน้า
