ดาวโจนส์ปิดลบ 121จุด หวั่นผลตอบแทนพันธบัตรดีดดันดอกเบี้ยพุ่ง กระทบต้นทุนธุรกิจ



  • นักลงทุนกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐกลับมาพุ่งขึ้น-ตัวเลขจ้างงานต่ำคาด
  • .มีแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มอ่อนไหวหากดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่อง
  • .ตลาดจับตาความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังออกไม่ได้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดวันที่ 3มี.ค.ที่ 31,270.09 จุด ลดลง 121.43 จุด หรือ -0.39% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,819.72 จุด ลดลง 50.57 จุด หรือ -1.31% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 12,997.75 จุด ลดลง 361.04 จุด หรือ -2.70%

นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล แอมะซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 2.49% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.47% เมื่อคืนนี้ ซึ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะชี้นำดอกเบี้ยเงินกู้ต่างๆในตลาดให้ปรับขึ้นตาม ทำให้บริษัทต่างๆเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.39% หุ้นแอปเปิล ดิ่งลง 2.45% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 2.89% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 2.49% หุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 2.57%

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 117,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ดี นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มการเงิน อันเนื่องมาจากความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.39% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ทะยานขึ้น 3.8% หุ้น 3M บวก 0.51% ส่วนหุ้นในกลุ่มการเงินนั้น หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 1.96% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 1.05% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 1.57%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI หลังมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมสัปดาห์นี้ โดยหุ้นเชฟรอน บวก 1.10% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 2.64% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 3.02%

นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามรับรองเป็นกฎหมาย

รวมทั้งจับตา ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่ง