ดาวโจนส์ปิดบวก 285 จุด เฟดออกมาตรการ ชุดใหญ่ช่วยเศรษฐกิจ

  • ตั้งวงเงิน 6.5 แสนล้านให้เอสเอ็มอีกู้ช่วยสภาพคล่อง
  • คนว่างงานใหม่พุ่ง 6.6 ล้านคน สะท้อนความเปราะบางเศรษฐกิจ
  • นักลงทุนซื้อหุ้นการเงิน-สาธารณูปโภครับข่าวมาตรการฯ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 9 เม.ย.ที่ระดับ 23,719.37 จุด เพิ่มขึ้น 285.80 จุด หรือ +1.22% เอสแอนด์พร 500 ปิดที่ 2,789.82 จุด เพิ่มขึ้น 39.84 จุด หรือ +1.45% ส่วนดัชนีอนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 8,153.58 จุด เพิ่มขึ้น 62.67 จุด หรือ +0.77%

นักลงทุนขานรับการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ให้สินเชื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนตชาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า

ทั้งนี้ เฟดจะปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีพนักงานไม่เกิน 10,000 คน และมีรายได้ไม่เกิน 2.5 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ในวงเวินรวม 6.5 แสนหุ้นล้านเหรียญฯ ให้สินเชื่อรายละ 1 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่เกิน 25 ล้านดอลลาร์

มาตรการของเฟดยังรวมถึงโครงการประกันรายได้ของพนักงาน และมาตรการอื่นๆเพิ่มเติมด้วย โดยดนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะจัดหาสภาพคล่องให้แก่ภาคธุรกิจและครัวเรือน ขณะที่ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0%

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ทะยานขึ้น 9.05% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 4.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 7.14% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 6.15% หุ้นแบล็คร็อค พุ่งขึ้น 4.6% หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส บวก 2.9%

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น ทะยานขึ้น 10% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น บวก 4.15% หุ้นเฟิร์สท์เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 3.5% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 5.6% หุ้นคอนโซลิเดทเต็ด เอดิสัน อิงค์ พุ่งขึ้น 4.9%

หุ้นวอลท์ดิสนีย์ พุ่งขึ้น 3.46% หลังจากบริษัทรายงานว่า ยอดผู้ใช้บริการสตรีมมิ่ง “ดิสนีย์พลัส (Disney+)” พุ่งขึ้นกว่า 50 ล้านราย

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบที่ลดลง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงานใหลดลงอีกครั้ง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.6% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.04% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ลดลง 1.48% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 6.17% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ลดลง 0.3%

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้สะท้อนความอ่อนแอของเศรษฐกิจ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.6 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.25 ล้านราย

โดยการพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก

ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดิ่งลง 0.6% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558

ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 10 เม.ย. เนื่องในวัน Good Friday การซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่ 9 เม.ย.จึงถือเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้