• ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มมีช่วงบวกน้อยลงเรื่อยๆ หลังขึ้นต่อเนื่องมา4วัน
  • นักลงทุนได้แรงหนุนจีนจ่อลดภาษีนำเข้าให้สหรัฐตามสัญญา
  • ตัวเลขว่างงานลด-พบยาต้านไวรัสโคโรนาช่วยพยุงดัชนี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 6ก.พ.เพิ่มขึ้น 88.92 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 29,379.77 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 11.09 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 3,345.78 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 63.47 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 9,572.15 จุด

ตลาดรับปัจจัยหนุนจากการดำเนินการตามข้อตกลงการปรับลดภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจีนจะปรับลดภาษีนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐสู่ระดับ 2.5% จากระดับ 5% ส่วนภาษีนำเข้าถั่วเหลืองจะลดลงสู่ระดับ 27.5% จากระดับ 30% ขณะที่ภาษีนำเข้าเนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อไก่ จะปรับลดลงสู่ระดับ 30% จากระดับ 35% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.

ซึ่งการปรับลดอัตราภาษีดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขในข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงในปีที่แล้ว

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงพอใจกับตัวเลขการว่างงาน ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 202,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 215,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 211,750 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว

ขณะที่ข่าวที่มีนักวิจัยจากจีนและอังกฤษในการคิดค้นยาและวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และการที่ธนาคารกลางจีนกำลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ยังช่วยพยุงตลาดหุ้นสหรัฐให้บวกต่อเนื่องเป็นวันที่4 ต่อเนื่อง แม้ช่วงบวกของดัชนีจะลดลงต่อเนื่องเช่นกัน