ดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 440 จุด คลายกังวลโอมิครอนอาการไม่รุนแรง

.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นหลังCDC เผยผู้ติดโอมิครอนมีอาการเพียงเล็กน้อย
.รัฐบาลสหรัฐ ยังไม่มีแผนล็อกดาวน์เศรษฐกิจอีกครั้งจากการระบาดโอมิครอน
.ราคาน้ำมันดิบพุ่ง หลังซาอุฯ ประกาศขึ้นราคาขาย หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,023.96 จุด เพิ่มขึ้น
443.88 จุด หรือ +1.28% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,023.87 จุด ลดลง 61.60 จุด หรือ -0.41% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,558.70 จุด เพิ่มขึ้น 20.27 จุด หรือ +0.45%

นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่า แม้โอไมครอนจะระบาดได้รวดเร็วกว่าโควิดเดลตา แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลสหรัฐยังคงระบุว่า ไม่มีแนวคิดที่จะกลับไปล็อกดาวน์เศรษฐกิจอีกครั้ง

ดร.โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เปิดเผยในวันนี้ว่า ขณะนี้สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้วอย่างน้อยใน 16 รัฐ หรือคิดเป็นพื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศ โดยรายงานระบุว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนมากเป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยมีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ทั้งนี้ ดร.วาเลนสกีระบุว่า สิ่งที่น่ากังวลขณะนี้ยังคงเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา เนื่องจากยอดผู้ป่วยใหม่กว่า 99.9% ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าว

ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ได้ตรวจพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในอย่างน้อย 38 ประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทะยานขึ้นกว่า 2% ในวันนี้ หลังจากที่ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบียประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ขายให้เอเชียและสหรัฐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการใช้น้ำมันยังคงแข็งแกร่ง โดยเมื่อวันอาทิตย์ (5 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียได้ขึ้นราคาน้ำมันดิบทุกเกรดประจำเดือนม.ค.ที่ขายให้แก่เอเชียและสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นสูงสุด 80 เซนต์จากระดับของเดือนก่อนหน้า