ดาวโจนส์บวกต่อเนื่องทั้งสัปดาห์ ดีดขึ้นอีกกว่า 60 จุด เก็งดอกเบี้ยเฟดหยุดขึ้น

.นักลงทุนคาดเฟดยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขเศรษฐกิจชะลอตัว

.ตลาดมองตลาดแรงงานเริ่มแผ่ว กดดันเงินเฟ้อลดลงต่อเนื่อง

. ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ส่งสัญญาณ เฟดอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป

เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ  34,783.02 06fเพิ่มขึ้น  61.11 จุดหรือ  0.18%  ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,512.41 จุด เพ่ิมขึ้น  4.75 จุด หรือ 0.11%  ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,025.32 จุด ลดลงเล็กน้อย  9.65 จุดหรือ 0.07% 

ดาวโจนส์พุ่งต่อเนื่อง เก็ง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปิดฉากขึ้นดอกเบี้ย โดบนักลงทุนคาดการณ์า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาไม่ดีนัก ขณะที่อัตราการว่างงานที่พุ่งขึ้น และตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานที่ต่ำกว่าคาด บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ซึ่งระบุว่า เฟดอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป ทำให้นักลงทุนเทน้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 7.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนพ.ย.และธ.ค.

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5%

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้นแค่ 157,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.4%