ดาวโจนส์บวกกว่า100จุด ขานรับคนว่างงานต่ำสุดตั้งแต่เกิดโควิด

  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 712,000 ราย
  • ตลาดมีแรงซื้อกลับ คาดภาคธุรกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง
  • นักลงทุนจับตาความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลอตใหม่

เมื่อเวลา 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 29,984.45 จุด เพิ่มขึ้น 100.66 หรือ+0.34% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,418.51จุด เพิ่มขึ้น 69.15 จุดหรือ+ 0.56% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,674.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.29จุดหรือ+ 0.14%

ตลาดหุ้นสหรัฐ ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขคนว่างงานที่ดีขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 712,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 780,000 ราย จากระดับ 787,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ต่ำกว่า 800,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน หลังจากที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.9 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ภาคธุรกิจปิดกิจการ และมีการปลดพนักงานจำนวนมาก

นอกจากนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 569,000 ราย สู่ระดับ 5.52 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นักลงทุนยังจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลอตใหม่ หลังนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐตามข้อเสนอของนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา หากมาตรการดังกล่าวสามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส

“ท่านประธานาธิบดีจะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่คุณแมคคอนเนลล์เสนอ และเราจะพยายามสานต่อจากข้อเสนอดังกล่าว” นายมนูชินกล่าว

ก่อนหน้านี้ นายมนูชินและนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้หารือกันเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 9 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดี นายแมคคอนเนลล์งต้องการให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินราว 5 แสนล้านดอลลาร์ที่มีการระบุความช่วยเหลือต่อภาคอุตสาหกรรมอย่างเฉพาะเจาะจงในการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขณะเดียวกัน ต้องการให้สภาคองเกรสควรพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ในคราวเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดการชัตดาวน์ในเดือนธ.ค.นี้