.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน แต่ยังบวกได้เล็กน้อย รอผลโหวตขยายเพดานหนี้คืนนี้
. นักลงทุนคาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.
. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายปรับตัวลง บ่งชี้ภาคการผลิตซบเซา
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,931.98 จด เพิ่มขึ้น
23.71 จุดหรือ +0.07% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,995.90 จุด เพิ่มขึ้น 60.61 จุด หรือ +0.47% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,197.61 จุด เพิ่มขึ้น 17.78 จุด หรือ +0.43%
นักลงทุนชะลอการซื้อขาย แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังสามารถยืนอยู่ในแดนบวก ระหว่างการรอคอยวุฒิสภาสหรัฐทำการพิจารณาร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ในวันนี้ หลังผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรวานนี้ โดยนายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา กล่าวว่า “ผมจะไม่รีรอที่จะให้การสนับสนุนร่างกฎหมายนี้” ขณะที่ ก่อนหน้านี้ มีสมาชิกบางคนแสดงความเห็นว่า คัดค้านร่างดังกล่าว
ทั้งนี้ หากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า “พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง” (Fiscal Responsibility Act) ก็จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
โดยกระบวนการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย. มิฉะนั้นสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หลังเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 29.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50%
ทั้งนี้ นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และนายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน ว่าที่รองประธานเฟด เป็นเจ้าหน้าที่เฟด 2 รายล่าสุดซึ่งส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
ด้านเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยวันนี้ ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.4 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 50.2 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 48.5 ซึ่งดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ
