ดาวโจนส์ดีดกลับบวกกว่า 420 จุด ตัวเลขตลาดแรงงานดี-คลายกังวลโอมิครอน

.นักลงทุนซื้อหุ้นกลับ หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงลึกมากในช่วงก่อนหน้า
.นักวิเคราะห์ เจพีมอร์แกน เชส มองโอมิครอน เป็นสายพันธุ์ท้ายๆ ก่อนสิ้นสุดยุคโควิด-19
.ตลาดแรงงานยังดีต่อเนื่องตัวเลขคนว่างงานต่ำ 2 ล้านคน เป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มการระบาดโควิด

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,449.49 จุด เพิ่มขึ้น
427.45 จุด หรือ +1.26% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,371.39 จุด เพิ่มขึ้น 117.34 จุด หรือ +0.77%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,559.51 จุด บวก 46.47 จุด หรือ +1.03%

นักลงทุนซื้อหุ้นกลับ หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงลึกมาก จากความตื่นตระหนกว่าจะมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และสามารถทำให้วัคซีนหลักที่ใช้กันอยู่ในสหรัฐมีประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง นอกจากนั้น ตัวเลขภาคแรงงานที่ยังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ยังช่วยหนุนความเชื่อมั่นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

โดยวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 28,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 107,000 ราย สู่ระดับ 1.96 ล้านราย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ปรับตัวต่ำกว่าระดับ 2 ล้านรายนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนมี.ค.2563

เจพีมอร์แกน เชส ออกรายงานระบุว่า ภาวะตลาดที่ปั่นป่วนในขณะนี้ ซึ่งมีสาเหตุจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนในการเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเปิดประเทศและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน และกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาหุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้นกว่า 3% หลังทางการจีนอนุมัติให้เครื่องบินรุ่น 737 Max สามารถทำการบินได้

อย่างไรก็ตาม การพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในสหรัฐ และทำเนียบขาวได้ออกกฎคุมเข้มการเดินทาง โดยกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าสหรัฐจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายในเวลา 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางมายังสหรัฐฯ เป็นประเด็นที่นักลงทุนกังวล

นายมาร์โก โคลาโนวิช และนายบราม แคปแลน นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ระบุว่า “แม้ว่าโอมิครอนจะระบาดได้รวดเร็วกว่า แต่รายงานก็บ่งชี้ว่าสายพันธุ์นี้มีความรุนแรงน้อยกว่า ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบวิวัฒนาการของไวรัสในอดีต โดยเขามองว่าลักษณะนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าการแพร่ระบาดใกล้ยุติแล้ว และถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง