- เริ่มนับคะแนนทางไปรษณีย์ ส่งผลคะแนน “ไบเดน” เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
- นักลงทุนกังวล “ทรัมป์”จะขอให้ศาลสูงสุดเข้าแทรกแซงการนับคะแนนเลือกตั้ง
- ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน เฟด เริ่มวันนี้
เมื่อเวลา 22.25 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวผันผวน แต่เริ่มบวกขึ้นแรง หลังนายไบเดนที่คะแนนนำอีกครั้ง โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 28,038.20 จุดเพิ่มขึ้น 558.17 จุด หรือ +2.03% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,590.46จุด พุ่งขึ้นแรงถึง 429.89 จุด หรือ +3.85% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,458.98 จุด เพิ่มขึ้น
89.82 จุด หรือ +2.67%
ในช่วงแรก นักลงทุนกังวลผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันได้กล่าวอ้างว่าตนเองถูกโกงคะแนนการเลือกตั้ง และขู่ว่าจะขอให้ศาลสูงสุดเข้าแทรกแซงกระบวนการนับคะแนนเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังกังวลความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการประกาศผลการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม หลังเริ่มนับคะแนนทางไปรษณีย์ นายไบเดนเริ่มมีคะแนนนำกลับมาในหลายรัฐ ส่งผลผลบวกต่อดัชนีหุ้นสหรัฐ
โดยหากนายไบเดนคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และพรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากอย่างเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรสทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ก็จะส่งผลให้พรรคเดโมแครตสามารถขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้อย่างราบรื่น หลังจากที่ถูกขัดขวางในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ด้านภาวะเศรษฐกิจ ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยายการเงิน ของธนาคารกลางในสหรัฐ (เฟด)ที่จะประชุม 2 วัน โดยเริ่มต้นในวันที่ 4 พ.ย.หรือวันนี้
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 365,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 600,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ADP ได้ปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนก.ย.สู่ระดับ 753,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 749,000 ตำแหน่ง
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 530,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 7.7%
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 661,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 850,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 7.9% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.2%
