ดาวโจนส์กลับมาติดลบกว่า 100 จุด กังวลล็อกดาวน์รอบ 2

.นักลงทุนกังวล “ไบเดน” ปิดเศรษฐกิจรอบใหม่สู้โควิด

.ผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งวันเดียวกว่า 1.4 แสนคน

.คนว่างงานลดต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4

เมื่อเวลา 22.10 ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 29,241.30 จุด ลดลง 156.33 จุด หรือ -0.53% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,817.04 จุด เพิ่มชึ้น 30.61 จุด หรือ +0.26% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,563.45 จุด ลดลง 9.21 จุด หรือ -0.26%

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงมมากและการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดในสหรัฐ ได้บดบังปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาเทขายหุ้นที่ได้รับผลดีจากการเปิดเศรษฐกิจเพื่อลดความเสี่ยง และกลับมาซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และการทำงานที่บ้าน

ขณะนี้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 10.7 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 247,000 ราย โดยล่าสุด ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำลายสถิติสูงสุดอีกครั้งในวันเดียวที่ 142,808 คน ทำให้หลายรัฐ รวมถึงแคลิฟอร์เนีย ประกาศมาตรการเคอร์ฟิว ขณะที่ผู้ว่าการรัฐเนวาดาเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ส่วนนครนิวยอร์กประกาศเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมเวลาการเปิดให้บริการของผับบาร์และร้านอาหาร

นายแพทย์ไมเคิล ออสเตอร์โฮล์ม ที่ปรึกษาด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอให้มีการล็อกดาวน์สหรัฐเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนกว่าจะมีการอนุมัติและจำหน่ายวัคซีนต้านโควิด-19

ทางด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวว่า เขามีความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญความเสี่ยงในช่วงขาลงในระยะสั้น อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ช่วงเวลา 2 ไตรมาสข้างหน้าจะมีความท้าทาย และยากลำบากมาก โดยความเสี่ยงในช่วงขาลงกำลังเพิ่มขึ้นอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี นายแคปแลนกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า หลังจากที่มีการแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ในวงกว้าง

นอกจากนี้ นายแคปแลนยังระบุว่า ตราบใดที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาด เฟดไม่ควรยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน และโครงการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจในขณะนี้ออกมาในทิศทางที่ดี กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยลดลงสู่ระดับ 709,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 757,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 735,000 ราย

ขณะเดียวกัน การประกาศราคาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนต.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.
เนื่องจากการร่วงลงของราคาน้ำมันได้หักล้างการดีดตัวขึ้นของราคาอาหาร

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการเสวนาผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้