ดัชนีรู้เท่าทันสื่อออนไลน์เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ของคนไทย 78.2%



  • ดีอีเอส เผยดัชนีการรู้เท่าทันสื่อออนไลน์
  • 76.1% รู้ว่าการเเชร์ข่าวเท็จผิด พ.ร.บ.คอมพ์
  • เฟซบุ๊ก ยังเป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่และส่งต่อข่าวปลอมเกี่ยวกับโควิด

นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)  ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม แถลงผลสำรวจในโครงการประเมินพฤติกรรมของประชาชนต่อข่าวปลอมช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 4-14 พฤษภาคม 2563 จัดทำโดยสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) สำรวจเกี่ยวกับการรับรู้ข่าวปลอมเกี่ยวกับโควิด ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ดัชนีการรู้เท่าทันสื่อออนไลน์เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ของคนไทย อยู่ในระดับสูง 78.2% 

สำหรับผลสำรวจครั้งนี้ ดำเนินการกับกลุ่มตัวอย่าง 4,100 คน ครอบคลุมทุกระดับการศึกษา และหลากหลายสาขาอาชีพ โดยพบว่า  64.2% สามารถแยกข่าวจริงข่าวปลอมได้ถูกต้อง , 95.2% ไม่ส่งต่อ/แชร์ข้อความที่เป็นข่าวเท็จ และ 76.1% รู้ว่าการเเชร์ข่าวเท็จมีความผิดตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์  พ.ศ. 2560

ด้านความสามารถในการประเมินข่าวสารเกี่ยวกับโรคโควิด-19 พบว่า 35.7% ของประชาชนยังไม่สามารถแยกข่าวจริงและข่าวเท็จ โดย 4.8% ยังมีการแชร์ข้อความที่เป็นเท็จ และ 83.8% ของผู้ที่แชร์ข่าวเท็จ  แชร์ทางเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ประชาชน 57.6%  เคยเห็น/ ได้ยิน/ ได้อ่าน ข่าวปลอม โดยแหล่งที่กลุ่มตัวอย่างนี้เข้าถึงข่าวปลอมโควิด19 ได้แก่ เฟซบุ๊ก มากสุด 51.1% ตามมาด้วย สื่ออื่นๆ ที่ไม่ใช่สื่อออนไลน์ 28.8% , ไลน์ 15.6% และทวิตเตอร์/ยูทูบ/อินสตาแกรม 4.5%

“จากผลการสำรวจครั้งนี้ ทางกระทรวงดิจิทัลฯ และกระทรวงสาธารณสุข ต้องเพิ่มการทำงานเชิงรุกในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและแจกแจงข้อมูลเท็จอย่างกว้างขวาง ในประชาชน ผ่านสื่อสังคม โดยเฉพาะข้อความที่เกี่ยวกับการเกิดโรคหรือรายละเอียดทางวิทยาศาสตร์”

โดยจากนี้ไปจะมีการจัดทำผลสำรวจออนไลน์ในโครงการนี้เป็นรายสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง จนถึงเดือนสิงหาคม 2563 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นประชาชนทั่วไป เพื่อประเมิน “การรู้เท่าทันสื่อ” ของประชาชน เกี่ยวกับความสามารถแยกแยะ ตรวจสอบ การปฏิบัติตาม และการส่งต่อ ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับ โควิด-19 ทั้งข่าวจริงและข่าวปลอม