ดัชนีดาวโจนส์ เปิดตลาดในแดนลบ จีน-สหรัฐฯ ยังไม่มีข้อสรุปตกลงการค้า

  • นักลงทุนจับตาแนวโน้มบวกสหรัฐฯอาจไม่ขึ้นภาษีนำเข้าจีนรอบใหม่ 15 ธ.ค.
  • รอทิศทางดอกเบี้ยนโยบายเฟด หลังเริ่มประชุมนโยบายการเงินวันนี้
  • นักวิเคราะห์คาด FOMC ครั้งนี้ คงดอกเบี้ย-ไม่ลดต่อเนื่อง

เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เปิดตลาดวันที่ 2 ของสัปดาห์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 27,846.92 จุดลดลง 62.68 จุด หรือ -0.22%ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,131.69 จุด ลดลง 4.27 จุด หรือ 0.14% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท เคลื่อนไหวที่ระดับ 8,617.45 จุด ลดลง 4.38 จุดหรือ -0.05%

นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เริ่มต้นแล้วในวันนี้ (10 ธ.ค.) ก่อนที่จะมีการลงมติอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันพรุ่งนี้ (11 ธ.ค.) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้

ขณะเดียวกัน นักลงทุนมีความวิตกเพิ่มขึ้นต่อผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ดำเนินยาวนานหลายเดือน โดยไม่มีความคืบหน้าที่จะทำข้อตกลงใหม่กันได้ในเร็วๆนี้

หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า สหรัฐและจีนไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกในสัปดาห์นี้ แต่อย่างไรก็ตาม เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง คาดว่า ยังไม่มีแนวโน้มที่สหรัฐฯ จะเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค.ตามที่มีการกำหนดไว้ก่อนหน้านี้

โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ประกาศว่าจะมีการเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ซึ่งจีนก็ยืนยันที่จะตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นกัน

ทั้งนี้ แนวโน้มที่สหรัฐฯ จะไม่ขึ้นภาษีนำเข้ารอบใหม่ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ของเซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง ตรงกับรายงานข่าวของ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่ระบุว่า สหรัฐจะชะลอการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค.

โดยวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าของสหรัฐได้เรียกร้องจีนให้คำมั่นสัญญาที่จะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะมีการบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่จีนต้องการให้การซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐมีสัดส่วนสอดคล้องกับการที่สหรัฐยกเลิกการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน