- หุ้นผู้ผลิตชิพดิ่งลงหวั่นสงครามการค้าปะทุอีกครั้ง
- นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจอังกฤษถดถอยครั้งแรก
- แม้เดือนส.ค.แย่ แต่คิดตั้งแต่ต้นปีหุ้นสหรัฐยังเพิ่มขึ้น
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันสุดท้ายของสัปดาห์กลับมาเปิดตลาดติดลบอีกครั้ง หลังตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับการตอบโต้กันทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ กลับมารุนแรงอีกครั้ง
โดยเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ 26,192.17 จุด ลดลง 186.02 จุด หรือ -0.71% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวอยู่ที่ 7,958.22 จุด ติดลบ 80.94 จุด หรือลดลง-1.01% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,915.00 จุด ลดลง 23.09 จุด หรือ -0.79%
ตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นเดือนที่เลวร้ายของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม หากคิดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ยังคงเพิ่มขึ้น 12.24% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เพิ่มขึ้น 19.62% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ยังคงเพิ่มขึ้น +16.10%
ราคาหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพดิ่งลง หลังมีข่าวว่า สหรัฐยังคงจำกัดการทำธุรกิจของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี โดยราคาหุ้นไมครอน เทคโนโลยี และแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส ต่างปรับตัวลง โดยสื่อรายงานว่า ทำเนียบขาวได้ชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตให้กับบริษัทสหรัฐฯที่ต้องการทำธุรกิจกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ของจีน หลังจากจีนได้ระงับการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ
นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ ฯเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เขาได้รับการยื่นคำขอทำธุรกิจกับหัวเว่ยจากบริษัทสหรัฐฯ 50 แห่ง และเขาได้ชะลอการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว โดยบริษัทสหรัฐฯต้องได้รับใบอนุญาตพิเศษเพื่อขายสินค้าให้กับหัวเว่ย หลังจากรัฐบาลสหรัฐขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างถึงความวิตกด้านความมั่นคงของประเทศ
นอกจากนั้น ตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปที่อ่อนแอ ยังสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ต่อแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง หลังตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในไตรมาสที่ 2 หดตัวเป็นครั้งแรก นับตั้งปี 2555
