ดัชนีดาวโจนส์เด้ง 137 จุด ตอบ รับการเจรจาการค้าเฟสแรกสำเร็จ-ทรัมป์มีโอกาสไม่หลุดประธานาธิบดี

  • นักลงทุนคาดสภาสูงไม่ถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์จากตำแหน่ง
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ประกาศลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก ม.ค.นี้
  • ปัจจัยบวกดัน 3 ตลาดหุ้นสหรัฐดีดขึ้นทำลายสถิติสูงสุดอีกครั้ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมาที่ระดับ 28,376.96 จุด เพิ่มขึ้น 137.68 จุด หรือ +0.49% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,205.37 จุด เพิ่มขึ้น 14.23 จุด หรือ +0.45% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท ปิดที่ 8,887.22 จุด เพิ่มขึ้น 59.48 จุด หรือ +0.67%

หลังจากบวกน้อยๆ ในช่วงเปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก ปิดทำนิวไฮ ทำลาสถิติสูงสุดเดิมอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นต่อการบรรลุข้อตกลงเพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยืนยันว่า สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในต้นเดือนม.ค. และจากนั้นทั้งสองฝ่ายจะเริ่มเจรจาข้อตกลงในเฟสที่สอง

โดยข้อตกลงเฟสแรก มีเนื้อหาครอบคลุมการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญา, การซื้อขายสินค้าเกษตร การเข้าถึงภาคบริการทางการเงิน และการดำเนินการด้านปริวรรตเงินตรา ขณะที่จีนได้ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในหลายรายการเพิ่มขึ้นในวันเดียวกัน

นักลงทุนยังคงติดตามทิศทางการเมืองในสหรัฐฯ โดยแม้ว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีมติถอดถอนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง แต่เชื่อว่า ในขั้นตอนของวุฒิสภาประธานาธิบดีทรัมป์ จะรอดพ้นจาการถอดถอน เพราะพรรครัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาสูง เช่นเดียวกับแอนดรูว์ จอห์นสัน และบิล คลินตัน สองอดีตประธานาะิบดีสหรัฐที่เคยถูกสภาผู้แทนราษฎรลงมติถอดถอน แต่รอดพ้นในขั้นตอนของวุฒิสภา และสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้จนครบวาระ

หุ้นโคนากรา แบรนด์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตขนมแบรนด์ดัง “Slim Jim” ทะยานขึ้น 15.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายและผลกำไรที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งช่วยหนุนราคาหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มสินค้าผู้บริโภคดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นไทสัน ฟู้ดส์ บวก 1% หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เพิ่มขึ้น 0.7% หุ้นเป๊ปซี่โค บวก 0.37% หุ้นโคคา-โคลา บวก 0.76%

หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.8% หลังจากบริษัทได้รับใบอนุญาตให้จัดหาอุปกรณ์บางส่วนให้กับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจที่สดใสในปีหน้า

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 234,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 1.7% สู่ระดับ 5.35 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. หลังจากอยู่ที่ระดับ 5.44 ล้านยูนิตในเดือนต.ค.

ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯจะผ่อนคลายมากขึ้น หลังมีข่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มอัดฉีดเงินรอบใหม่เข้าไปในระบบผ่านการซื้อพันธบัตรเดือนละ 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ