ดัชนีดาวโจนส์ลบต่อกว่า 300 จุด กังวลคนตก งานพุ่งกว่า 36 ล้านคน-เศรษฐกิจถดถอย

  • ยอดตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงกว่าที่คาด
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยตัวเลขขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก2.981 ล้านราย
  • นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจทรุดแรง โกลด์แมน แซคส์ หวังเฟดใช้ดอกเบี้ยติดลบ

เมื่อเวลา 21.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 22,879.63 จุด ติดลบ 368.34 จุดหรือ -1.58%ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 8,737.59 จุด ลดลง 125.57 จุด หรือ -1.42% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 2,775.20 จุด ลดลง 44.80 จุด หรือ -1.59%

นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นต่อเนื่อง จากวานนี้ที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดติดลบกว่า 500 จุด เนื่องจากกังวลภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอยรุนแรง ขณะที่เงินเฟ้อโชว์ตัวเลขที่อาจจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด จากการใช้จ่ายที่ลดลงมากในช่วงสั้น ๆ นอกจากนั้น ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ประกาศออกมาในวันนี้ ยังคงสูงกว่าที่คาด โดยจำนวนคนตกงานพุ่งขึ้นกว่า 36 ล้านคน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 2.981 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5 ล้านราย ทำให้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นเกือบ 36.5 ล้านราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของประชากรในวัยทำงานทั้งหมดของสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่มีการรายงานในวันนี้ถือว่าต่ำที่สุด นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆในช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค.เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยในหลายๆ รัฐในสหรัฐ เริ่มประกาศผ่อนคลายมาตรการและอนุญาตให้ร้านค้าเปิดทำการมากขึ้น

ตลาดยังคงกังวลผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจที่รุนแรงกว่าที่คาด โดยพญ.ซุมยา สวามินาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ประจำองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจดำเนินต่อไปอีก 4-5 ปี ก่อนที่จะถูกควบคุมไว้ได้

ทั้งนี้ แม้ว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยืนยันวานนี้ว่า เฟดจะไม่ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ โดยเข ากล่าวว่าจะใช้นโยบายอื่นๆเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้ง ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐ อนุมัติการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น แต่นายแซค แพนเดิล นักวิเคราะห์ของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐทรุดตัวลงครั้งใหม่รุนแรง สิ่งนี้อาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หันมาพิจารณาใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ