ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 227จุด กังวลไวรัสโควิด-19 -เศรษฐกิจสหรัฐ

  • นักลงทุนเทขายหุ้นหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับมาพุ่งขึ้น
  • นักวิเคราะห์คาดผลกระทบโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจโลกรุนแรงมากขึ้น
  • ตลาดช็อกตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ต่ำสุดรอบ76เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 21 ก.พ.ส่งท้ายสัปดาห์ยังคงร่วงลงต่อเนื่อง ปิดตลาดที่ 28,992.41 จุด ลดลง 227.57 จุด หรือ -0.78%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,337.75 จุด ลดลง 35.48 จุด หรือ -1.05% ด้านดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,576.59 จุด ลดลง 174.38 จุด หรือ -1.79%

ตลอดสัปดาห์นี้ แม้จะมีวันที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น.แต่ภาพรวม ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1.4%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.3% และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 1.6%

นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นอีกในวันศุกร์ ขณะที่เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 100 ราย และญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อเพิ่มกว่า 80 ราย หลังจากที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อชะลอตัวในช่วงก่อนหน้า ทำให้ยังไม่แน่ใจว่า สถานการณ์ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหรือยัง หรือการแพร่ระบาดจะกลับมารุนแรงเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจทั้งรัฐ และเอกชทั่วโลกต่างออกมาเตือนถึงความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19ต่อเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงเพิ่มขึ้น

ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่อ่อนแอในสหรัฐ โดยไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 49.6 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 76 เดือน จากระดับ 53.3 ในเดือนม.ค.

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วง 3.16%, หุ้นอเมซอน ลดลง 2.65% และหุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 2.26%

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปซึ่งมีความเชื่อมโยงทางธุรกิจที่แข็งแกร่งกับจีน ร่วงลงด้วย โดยหุ้นอินเทล ลบ 1.7% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 3.41%