.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงหนุนนักลงทุนซื้อหุ้นต่อเนื่อง
.หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจฟื้น-เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นคึกคัก
.ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ครั้งที่2
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 24 พ.ค.ที่ 34,393.98 จุด เพิ่มขึ้น 186.14 จุด หรือ +0.54% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,197.05 จุด เพิ่มขึ้น 41.19 จุด หรือ +0.99% ดัชนีอนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,661.17 จุด เพิ่มขึ้น 190.18 จุด หรือ +1.41%
นักวิเคราะห์จากบริษัทเกล็นวิว ทรัสต์ ในรัฐเคนตักกี้ของสหรัฐกล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเติบโตอย่างคึกคักหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ และคาดว่าหุ้นเติบโตจะได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุนอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความหวังที่ว่าหุ้นกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารปรับตัวเพิ่มขึ่น หลังจากที่มีแรงเทขายในช่วงก่อนหน้า โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.66% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 1.33% หุ้นแอมะซอน บวก 1.31% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.01% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.92% หุ้นทวิตเตอร์ ทะยานขึ้น 4.81%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญดีดตัวขึ้น เช่นกัน โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 1.86% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 1.52% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2.12% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 2.69% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ทะยานขึ้น 3.69%
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเกือบ 4% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 1.48% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.19% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ บวก 0.88% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 1.27%
หุ้นโมเดอร์นา พุ่งขึ้น 1.68% หลังมีรายงานว่า โมเดอร์นาวางแผนที่จะยื่นข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกในการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กับเด็กให้แก่กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า โดยการทดลองดังกล่าวเป็นการทดลองใช้วัคซีนกับเด็กๆ ที่มีอายุ 12-17 ปี
นอกจากนี้ การฟื้นตัวของราคาบิตคอยน์ยังเป็นปัจจัยกระตุ้นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนฟื้นตัวขึ้นด้วย โดยหุ้น Riot Blockchain พุ่งขึ้น 13.62% หุ้น Marathon Digital พุ่งขึ้น 10.82% หุ้น Coinbase ดีดขึ้น 0.42% หุ้น Silvergate Capital บวก 0.95%
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)สาขาชิคาโกเปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ 0.24 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.20 จากระดับ 1.71 ในเดือนมี.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2) ของสหรัฐในวันพฤหัสบดี โดยคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนต่อเนื่อง และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE นับเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
