ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกแรง 528 จุด ลุ้นเงินเฟ้อชะลอ-ดอกเบี้ยขึ้นไม่แรง

.นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ คืนวันนี้คาดชะลอลงต่อเนื่อง

.ตลาดจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ

.มีแรงซื้อสะสม รับข่าวดีรายตัวหุ้น หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาคึกคักรอบใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 12 ธ.ค.ที่ระดับ 34,005.04 จุด พุ่งขึ้น 528.58 จุด หรือ +1.58%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,990.56 จุด เพิ่มขึ้น 56.18 จุด หรือ +1.43% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,143.74 จุด เพิ่มขึ้น 139.12 จุด หรือ +1.26%

นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้นสะสมเพื่อทำกำไร หลังคาดการเงินเฟ้อยังคงชะลอลงต่อเนื่อง และธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ รวมทั้ง มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาเพิ่มขึ้นรับข่าวดีของหุ้นรายตัว

ตลาดจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีเงินเฟ้อประจำเดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันนี้ (13 ธ.ค.) ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์จะยังลดลงต่อเนื่อง โดยคาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะขยายตัว 7.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากเดือนต.ค.ที่มีการขยายตัว 7.7% และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 6.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากเดือนต.ค.ที่มีการขยายตัว 6.3%

ขณะเดียวกัน ยังจับตาผลการประชุมเฟดในวันพุธที่ 14 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 15 ธ.ค.ตามเวลาไทย นอกจากนี้ ยังรอดูถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 และการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนถึงปี 2568 โดย คาดว่าเฟดจะเริ่มชะลออัตราเร่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปรับขึ้นเพียง 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% หลังจากที่ปรับขึ้น 0.75% มา 4 ครั้ง

ราคาหุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้น 2.89% หลังจากบริษัทประกาศเป็นพันธมิตรกับกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange Group – LSEG) โดยไมโครซอฟท์จะเข้าซื้อหุ้นของ LSEG ในสัดส่วน 4% จากผู้ถือหุ้นเดิมคือแบล็คสโตน/ธอมสัน รอยเตอร์ คอนซอร์เทียม (Blackstone/Thomson Reuters Consortium) โดยในช่วงเวลา 10 ปีข้างหน้า LSEG จะใช้บริการคลาวด์และซัพพอร์ตจากไมโครซอฟท์ เป็นมูลค่าอย่างน้อย 2.8 พันล้านดอลลาร์ และจะมีการเชื่อมระบบ LSEG Workspace เข้ากับผลิตภัณฑ์ขไมโครซอฟท์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้ให้แข็งแกร่งขึ้น

หุ้นโบอิ้ง ทะยานขึ้น 3.75% หลังจากมีรายงานว่าโบอิ้งใกล้จะบรรลุข้อตกลงขายเครื่องบินให้กับสายการบินแอร์อินเดีย
หุ้นไฟเซอร์ ดีดตัวขึ้น 0.85% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่า รายได้จากการจำหน่ายวัคซีนทั่วโลกในปี 2566 จะอยู่ที่ 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงวัคซีน mRNA ป้องกันโรคโควิด-19

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้น 3% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 0.99% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 3.91% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 1.6%