ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 60 จุด ติดตามทิศทาง เศรษฐกิจ-นโยบายการเงิน

.กลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่ประกาศผลประกอบการดีเกินคาด
.ตลาดจับตาจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินเฟดพุธนี้
.ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลงแรง 9.5%ในเดือน เม.ย.

เมื่อเวลา 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,260.07 จุด ลดลง
67.72 จุด หรือ -0.20% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,471.88 จุด เพิ่มขึ้น 92.83 จุด หรือ +0.69% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,165.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.99 จุด หรือ 0.05%


บริษัทในกลุ่มค้าปลีก โดยบริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก, เมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ และโฮม ดีโปท์ อิงค์ บริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ต่างเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับอานิสงส์จากการที่ผู้บริโภคทำการใช้จ่ายมากขึ้น หลังได้รับเช็คเงินสดจากมาตรการเยียวยาผลกระทบของโควิด-19


ขณะที่ ราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากดิ่งลงวานนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้ดัชนีแนสแด็กปรับตัวเป็นบวก ขณะที่มีแรงขายในตัวที่มีกำไรแล้ว หลังบริษัทส่วนใหญ่ได้ประกาศผลประกอบการไปแล้วจำนวนมาก ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์อยู่แดนลบ


อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีความกังวล และจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 27-28 เม.ย.ที่จะมีการเผยแพร่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด


นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ยืนยันว่า เขามีความพอใจต่อนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษของเฟดในขณะนี้ แม้ว่าเงินเฟ้อกำลังเร่งตัวขึ้น


“เรายังคงมีการจ้างงานต่ำเกินไป 8 ล้านตำแหน่งเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ทำให้เรายังคงมีช่องว่างในการใช้นโยบายการเงินที่มีการผ่อนคลายอย่างมากต่อไป” นายบอสติกกล่าว


ด้านตัวเลขเศรษฐกิจไม่สดใส โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าวันนี้ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 9.5% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 1.569 ล้านยูนิต และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.710 ล้านยูนิต ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาไม้ และวัสดุอื่นๆในการสร้างบ้าน


นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ปรับลดตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.733 ล้านยูนิต จากเดิมรายงานที่ระดับ 1.739 ล้านยูนิต