“ฐากร ตัณฑสิทธิ์”​โพสต์เฟซบุ๊กครั้งแรก “ชวนคิดนโยบายสายสื่อสารลงดินให้เกิดได้จริง”



  • “สายสื่อสาร-สายไฟฟ้าลงดิน” อยากให้ฝันเป็นจริง
  • ต้องไม่ผลักภาระค่าใช้จ่ายไปให้ประชาชน
  • แนะแนวทางจัดการวิธีต้นทุนเอกชนถูกลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)​ หลังจากได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการกสทช. เมื่อตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากลาออก ก็ยังคงมีข่าวเป็นระยะๆตั้งแต่การสมัครเป็นกรรมการกสทช. แต่ไม่ครบคุณสมบัติ เนื่องจากลาออกยังไม่ครบ 2 ปี หลังจากนั้นข่าวคราวก็เงียบหายไป จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายฐากร ได้เคลื่อนไหว ด้วยการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ​“Takorn Tantasith” ระบุว่า “ชวนคิดนโยบายสายสื่อสารลงดินให้เกิดได้จริง”

ในช่วงเวลานี้มีคนพูดถึงสายลงดินกันมาก ผมก็อยากให้ฝันเป็นจริงและอยากมาชวนคิดว่าจะทำอย่างไรให้สำเร็จ สายดำๆที่พาดระโยงระยางบนเสาไฟฟ้าทุกวันนี้   แบ่งออกเป็นสายไฟฟ้าและสายสื่อสาร(โทรคมนาคม+เคเบิลทีวี)  สายไฟฟ้าพาดอยู่บนเสาไฟชั้นบนสุด ถัดลงมาเป็นสายสื่อสาร. ถ้าจะนำสายไฟฟ้าลงดิน เป็นหน้าที่ของการไฟฟ้านครหลวง  หากในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นหน้าที่ของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 

การนำสายไฟฟ้าลงดินต้องใช้กรรมวิธียุ่งยากเพราะต้องลงในระดับความลึกไม่ต่ำกว่า 5-6เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสไฟรั่วช๊อตเป็นอันตรายต่อประชาชน อีกทั้งยังต้องใช้อุปกรณ์ที่มี คุณภาพสูงใน การป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมลงไปในท่อเก็บสาย  ส่วนสายสื่อสาร มีกรรมวิธีไม่ยุ่งยาก เหมือนสายไฟฟ้า แค่ขุดเจาะในชั้นดินความลึกไม่เกิน 60-90 เซ็นติเมตร  และเจาะหัว เจาะท้าย ก็ดันสายลงท่อได้เลย  แต่การนำสายลงดินทั้งสายไฟ สายสื่อสารจะมีค่าใช้จ่ายสูงต่างกับการเอาไปพาด บนเสาไฟฟ้า

ผมเห็นว่า หากจะนำสายสื่อสารลงดินนั้น  เบื้องต้นจะต้องไม่การผลักภาระค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้นให้กับประชาชน  ในทางตรงกันข้ามนอกจากจะสร้างประสิทธิภาพของการใช้งานให้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้วจะต้องคิดอัตราค่าบริการที่ถูกลงกว่าเดิมด้วย  โดยมีแนวทางที่เสนอแนะดังนี้

1.  ต้นทุนผู้ประกอบการต้องไม่เพิ่มขึ้นมาก  การพาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าแบบปัจจุบันมีต้นทุนค่าเช่าพาดสายที่กิโลเมตรกว่า 1,000 บาท  ขณะที่การนำสายลงดินจะมีต้นทุนค่าเช่าที่กิโลเมตรละ 8,000-9,000 บาท

2.  ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ราคาค่าบริการเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย  

3.  การนำสายลงดินต้องไม่เป็นการผลักภาระให้กับประชาชน หน่วยงาน กทม.ต้องเป็นผู้ลงทุนสร้างท่อร้อยสายโดยใช้เงินงบประมาณของแผ่นดินหรือของ กทม.แล้วแต่ความเหมาะสม  ซึ่งถือว่าเป็นจัดสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่รัฐควรจัดให้กับประชาชน  โดยคิดอัตราค่าเช่าท่อร้อยสายใกล้เคียงกับที่เคยพาดบนเสาไฟฟ้า  

4.  การนำระบบสายสื่อสารลงดิน  สายที่แขวนอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 50 % เป็นสายตายที่ใช้งานไม่ได้   ต้องแยกออกก่อนจะเหลือสายที่ต้องนำลงดินไม่มากนัก   

5.   ถนนหนทางที่จะสร้างขึ้นใหม่ในอนาคต  ต้องมีการก่อสร้างระบบท่อร้อยสายใต้ดินไว้รองรับระบบสาธารณูปโภคทั้งสายไฟฟ้าและสายสื่อสาร

“วันนี้ขอแค่นี้ก่อน  เพราะต้องพาลูก (แมว 3 ตัว)ไปเดินสำรวจสายหน้าปากซอยก่อนครับ

ทั้งนี้นายฐากร  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการกสทช. ถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมให้เติบโต และเกิดการประมูลคลื่นความถี่ ประมูลเลขสวย การนำสายสื่อสารลงดิน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย   ดังนั้นการออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ของนายฐากร ครั้งนี้ เชื่อว่าต้องมีนัยยะสำคัญที่จะก้าวต่อไป … โปรดติดตามตอนต่อไป