
วันนี้ (23 พ.ค.64) นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ปิดเพจย้ายประเทศ ชาวบ้านเขาว่ากัน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน1,098 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 17-22 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือ 89.4% ต้องการพื้นที่แสดงความเห็นสร้างสรรค์ผ่านเพจกลุ่มย้ายประเทศ รองลงมาคือ 86.4% ต้องการให้รัฐบาล ติดตามใช้ประโยชน์ต่อยอดออกนโยบายพัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้น 85.2% ต้องการให้รัฐบาลส่งเสริมเปิดพื้นที่และรับฟังประชาชนอย่างเสรีและสร้างสรรค์ 83.8% ระบุรัฐบาล ควรดึงคนรุ่นใหม่ในเพจย้ายประเทศ มาร่วมพัฒนาประเทศทั้งภาครัฐและภาคประชาชน และ 81.2% ระบุรัฐบาลควรนำเสียงของประชาชนที่บริสุทธิ์ใจไปขับเคลื่อนแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชน
นอกจากนี้ที่น่าสนใจคือ ประเด็นพูดคุยในเพจย้ายประเทศให้ข้อคิดและมีประโยชน์ โดยพบว่า ส่วนใหญ่หรือ 58.8% เป็นเรื่อง สาธารณสุข เช่น การระดมวัคซีน กระจายวัคซีน ฉีดวัคซีน มีเพียงพอต่อความต้องการ 48.6% ระบุพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน เช่น กลุ่มวิชาชีพ พยาบาล แพทย์ ช่างไฟฟ้า ช่างแอร์ และช่างเครื่อง เป็นต้น 46.8% ระบุด้านกฎหมาย เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน 44.0% ระบุ โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่งมวลชน จัดระเบียบรถมอเตอร์ไซค์รถยนต์ใช้ถนนร่วมกัน แก้รถติด และ 42.4% ระบุ การศึกษา เช่น เรียนภาษาอังกฤษจำเป็นแต่เรียนแล้วใช้ประโยชน์ได้เลย ตามลำดับ
อีกทั้งที่น่าพิจารณาคือ ความเห็นของประชาชนต่อรัฐบาลว่า อยากให้เปิดใจกว้างรับฟังทุกปัญหา ผ่านทุกช่องทางให้เป็นพื้นที่เสรีทางความคิด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.8% ระบุ ต้องการให้รัฐบาลเปิดใจกว้างรับฟังเสียงของประชาชน คืนพื้นที่ให้ เพจ ย้ายประเทศ ในขณะที่ 7.2% ระบุไม่ต้องการ
รวมถึงที่น่าสนใจอีกคือ ส่วนใหญ่หรือ 81.9% ไม่ต้องการย้ายประเทศ เพราะรักประเทศไทย รักแผ่นดินไทย ภูมิใจเกิดบนแผ่นดินไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค พร้อมเกิดที่นี่ตายที่นี่ ประเทศไทยนี้ยามปกติมีชีวิตมีชีวา แต่ประเทศอื่นมีชีวิตไม่มีชีวา เป็นต้น ในขณะที่ 18.1% ต้องการย้ายไปประเทศอื่น เรียงอันดับประเทศได้แก่สหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนนาดา เยอรมัน ญี่ปุ่น ประเทศตะวันออกกลางและอื่น ๆ
นายนพดล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า เพจย้ายประเทศเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการแลกเปลี่ยนมุมมองและแนวคิดการพัฒนาประเทศอย่างสร้างสรรค์ของคนกลุ่มใหญ่ที่ไม่ควรถูกมองข้าม โดยมีการนำมุมมองและประสบการณ์ของหลายคนในหลายประเทศ มาแลกเปลี่ยน แบ่งปันและเปรียบเทียบกับประเทศไทย อยากเห็นการยกระดับพัฒนาเปลี่ยนแปลงบ้านเกิดของตนเทียบเคียงกันไปอย่างมีความหวัง โดยมีข้อสังเกตว่า กลุ่มคนในเพจย้ายประเทศจำนวนมากเป็นกลุ่มคนที่แสดงออกด้วยปัญญามากกว่าอารมณ์ และช่วยเสริมยกระดับความรู้ให้กันและกัน แตกต่างไปจากหลายเพจ ที่มักจะใช้อารมณ์และอคติแบ่งขั้วเลือกข้าง
“แท้จริงแล้ว คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการหนีย้ายประเทศ ยังรักและภูมิใจในประเทศไทย และอยากให้รัฐบาลเปิดพื้นที่ทางความคิดและเปิดกว้างรับฟังด้วยความเข้าใจซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เราต่างต้องการรวมพลังขับเคลื่อนประเทศไทยขึ้นนำไปข้างหน้าอย่างเร็วแรงการเปิดพื้นที่เสรีรวมพลังทางความคิด ถือเป็นการเรียนรู้ และทำความเข้าใจในปัญหาต่างๆ ซึ่งได้ประโยชน์ไปพร้อมๆกัน หากได้รับการเชื่อมโยงข้อมูล และถูกนำไปขับเคลื่อนเชิงนโยบายจากรัฐบาลอย่างจริงใจ จะเป็นประโยชน์กับการพัฒนาประเทศอย่างมาก และจะเป็นพลังบวกที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศในทิศทางที่เป็นความหวัง และความฝันร่วมกันกลายเป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดพลังพัฒนาประเทศชาติ และลดทอนวิกฤตศรัทธาต่ออำนาจรัฐ เพราะทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในหลักธรรมาภิบาลนี้” นายนพดล กล่าว










