

วันที่ 26 ธ.ค.2564 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจ เรื่อง บุคคลของสังคมแห่งปี 64 ในใจประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,124 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 21 – 25 ธ.ค. 64
เมื่อถามถึง คนดีของสังคม แห่งปี 64 ที่มีบทบาทสำคัญช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ด้อยโอกาส ระดมทุนบริจาคเพื่อความดีส่วนรวมของสังคม พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 นายอาทิวราห์ คงมาลัย “ตูน บอดี้สแลม” ร้อยละ 44.1 เพราะเป็นผู้จุดกระแสการช่วยเหลือ/แบ่งปันจากคนทุกระดับ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ไม่หวั่นไหวในการทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น ยอมเสียสละทั้งแรงกายและแรงใจ อันดับที่ 2 ได้แก่ นางปวีณา หงสกุล ร้อยละ 29.4 เพราะเป็นผู้ที่ช่วยเหลือผู้หญิง และเด็ก ด้านกฎหมาย ด้านการเงิน จุดประเด็นปัญหาสังคมให้เป็นประเด็นสาธารณะ และนำไปสู่การแก้ไข จนเกิดภาพจำว่า “แม่พระคนยาก โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก” และอันดับที่ 3 ได้แก่ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ร้อยละ 25.9 เพราะช่วยเหลือคนยากคนจน ผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยที่ผ่านมาผลงานลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้คนจนเข้าตากรรมการได้ใจ เพราะคำพูด ที่แรง แต่ตรง จนเกิดภาพจำ นางฟ้าขาลุย ไม่หวั่นไหวจากคำปรามาสของผู้อื่น
ที่น่าสนใจคือ คุณหมอของสังคมแห่งปี ช่วยวิกฤตโควิด พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 นพ.ยง ภู่วรวรรณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร้อยละ 39.9 เพราะเป็นแพทย์คนแรกที่ออกมาทำให้สังคมไทย รู้และเข้าใจ เรื่องโควิด-19 และวัคซีน อันดับที่ 2 ได้แก่ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ร้อยละ 36.0 เพราะเป็นแพทย์ในกลุ่มต้นๆ ที่ออกตัวช่วยเหลือประชาชนผู้ติดเชื้อโควิดและจัดสรรพื้นที่ให้ผู้ป่วยหนัก รวมถึงได้ภาพจำของนายแพทย์ผู้ปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ และอันดับที่ 3 ได้แก่ นพ.นิธิ มหานนท์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร้อยละ 22.2 เพราะเป็นหมอที่ช่วยบริหารจัดการและคลี่คลายสถานการณ์เรื่องวัคซีน โควิด-19 ที่อธิบายเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่าย
นอกจากนี้ บุคคลแห่งปีที่ช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนและปัญหาสังคม หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน แหล่งน้ำ และอื่นๆ ลดความเดือดร้อนปัญหาปากท้องของประชาชน พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และรองนายกฯ ร้อยละ 40.0 เพราะเป็นรองนายกฯ ที่ดูแลใส่ใจแก้ปัญหาด้วยตนเองโดยเฉพาะความเดือดร้อนทุกข์ยากของคนฐานราก อันดับที่ 2 ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ร้อยละ 36.4 เพราะเรื่องปากท้องเป็นความสำคัญอันดับแรกๆ ของคนทุกระดับที่ถูกแก้ปัญหาแบบครบเครื่องทั้งเรื่องเกษตรและพาณิชย์ การตลาดนำการผลิต ดูแลสมาชิกกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกรทั่วประเทศ อันดับที่ 3 ได้แก่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ร้อยละ 19.3 เพราะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญออกมาตรการเยียวยาความทุกข์ยากของประชาชนช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ที่เข้าใจบริบทสังคม ไม่พูดมากและทำงานทุ่มเท และเป็นลูกหม้อสภาพัฒน์ ทำให้เข้าใจบริบทประเทศทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม
เมื่อถามถึง บุคคลแห่งปีที่เป็นหลักดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมและความมั่นคงของประเทศ พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯร้อยละ 40.3 เพราะทำงานรักษาความมั่นคงของประเทศในทุกมิติทั้งเสาหลักของชาติ เหล่าทัพ และความมั่นคงในชีวิตของประชาชน อันดับที่ 2 ได้แก่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร้อยละ 27.3 เพราะเป็นผู้นำทางทหารในการต่อสู่กับความยากจนและต่อสู้กับความเดือดร้อนของประชาชน ความขัดแย้งของประชาชนไม่ใช่ศัตรูทหาร และอันดับที่ 3 ได้แก่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร้อยละ 26.0 เพราะการปฏิรูปตำรวจเป็นเสียงเรียกร้องของสังคมมาโดยตลอด แต่การปฏิรูปตำรวจที่เป็นไปตามธรรมชาติเกิดขึ้นได้เช่นกัน คืออยู่ที่ความเป็นผู้นำที่ดีขององค์กร และบทบาทสำคัญในการควบคุมสถานการณ์ความไม่มั่นคงของประเทศการชุมนุมของกลุ่มผู้มีความขัดแย้งทางความคิดและความรุนแรงที่ถูกดำเนินการให้อยู่ภายใต้กระบวนการยุติธรรม
ที่น่าสนใจคือ บุคคลแห่งปี ที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้มีบารมีทางการเมือง พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ร้อยละ 48.7 เพราะเป็นผู้อาวุโส พี่ใหญ่ทางการเมืองมืออาชีพ เป็นนักกฎหมายที่มีความลุ่มลึกและแม่นระเบียบจึงคุมเกมส์ในสภาได้อย่างละมุนละม่อม สามารถการใช้วาจาที่เชือดเฉือน สยบความวุ่นวายในสภาได้ทุกครั้ง อันดับที่ 2 ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. และรองนายกฯ ร้อยละ 32.6 เพราะภาพใหญ่ของการเมืองไทยมาจากกลุ่มอิทธิพลทางการเมืองที่หลากหลาย แต่บารมีของพล.อ.ประวิตร ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่เพราะเป็นผู้มี connection หลายระดับ โดยเฉพาะในกองทัพทุกรุ่น การเมืองทุกมุ้ง จึงไม่แปลกที่ทุกคนยอมรับว่า พล.อ.ประวิตร เป็นผู้มีบารมีทางการเมืองทั้งในพรรค พปชร. และพรรคร่วมรัฐบาล อาจพูดได้ว่า “ประวิตรมา ปัญหาหมด” สยบ กลุ่มเฮี้ยนนักการเมือง จัดการพวกนอกลู่นอกทาง และอันดับที่ 3 ได้แก่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 17.9 เพราะ ภาพจำ มือปราบตงฉิน วีรบุรุษนาแก ที่ยังคงมีผลนำมาใช้ในทางการเมืองทำการเมืองให้สะอาดเป็นของขวัญปีใหม่ถูกใจประชาชนได้