- เหตุมีอำนาจมีอิทธิพลตัวจริง
- ฝังตัวอยู่นาน รู้ระบบกลไกโกง
- ปรับตัวเข้าได้กับทุกยุค ทุกรัฐบาล
วันที่ 3 ก.ย.2565 ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ความเชื่อมั่นปราบโกง ยุคดิจิทัล กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,145 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 25 ส.ค. – 2 ก.ย.65 พบว่า
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.9 ระบุตัวร้าย ต้นตอทุจริต คอร์รัปชัน คือ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ เพราะมีอำนาจมีอิทธิพลตัวจริง ฝังตัวอยู่นาน รู้ระบบกลไกโกง ปรับตัวเข้าได้กับทุกยุค ทุกรัฐบาล ทุกนักการเมือง ขัดขวางการพัฒนาประเทศ รองลงมาในสัดส่วนที่ไม่แตกต่างกันคือ ร้อยละ 84.1 ระบุ นักการเมือง เพราะ ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ครอบครัว เครือญาติ พวกพ้อง กอบโกยผลประโยชน์ ถอนทุนคืน หาเงินซื้อเสียงเลือกตั้ง
ในขณะที่ร้อยละ 45.7 ระบุ ประชาชน เพราะต้องการอยู่รอด เอื้อประโยชน์ ยอมรับ คนโกงก็ไปเชิดชู ชั่วก็ชม ถ้าตนเองได้ประโยชน์ด้วย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.4 รับรู้ข่าว การลงโทษเอาผิดจัดการ เจ้าหน้าที่รัฐ ทุจริต คอร์รัปชัน มากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 25.7 เท่าเดิม และร้อยละ 10.9 น้อยลง
ที่น่าสนใจคือ 5 อันดับแรกข่าวที่พอใจในการเอาผิดจัดการ เจ้าหน้าที่รัฐ ทุจริต คอร์รัปชัน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.8 พอใจข่าวเอาผิดผู้บริหารระดับสูงของป.ป.ช. รองลงมาคือร้อยละ 94.1 ระบุ พอใจข่าวปลด อัยการระดับสูง ร้อยละ 93.7 ระบุพอใจข่าว เอาผิดจับโกง อบต. ปกครองท้องถิ่นและส่วนกลาง กทม. ทุจริต คอร์รัปชัน ร้อยละ 93.3 ระบุ พอใจข่าวเอาผิดจัดการตำรวจ ประพฤติมิชอบ ระบบส่วย รีดไถ และร้อยละ 93.0 พอใจข่าวเอาผิดจัดการข้าราชการและขบวนการเกี่ยวโยงเงินทอนวัด
เมื่อถามถึงพลังคนในโลกโซเชียล ยุคดิจิทัล ช่วยลดปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.8 เห็นด้วย ร้อยละ 30.2 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 6.0 ไม่มีความเห็น ในขณะที่ จำนวนมากหรือร้อยละ 36.9 เชื่อมั่นต่อหน่วยงานรัฐแก้ปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน ในยุคนี้ มากขึ้น ร้อยละ 35.2 เท่าเดิม และร้อยละ 27.9 น้อยลง
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นแสงสว่างในการแก้ปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน ของประชาชนคนไทยที่พบข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐคือต้นตอตัวร้ายของขบวนการทุจริต คอร์รัปชันตัวจริงเพราะมีอำนาจรัฐในมือฝังตัวอยู่นานกว่าพวกนักการเมืองที่เปลี่ยนมือ เปลี่ยนหน้ากันเข้ามามีอำนาจและใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์เพื่อครอบครัว เครือญาติ พวกพ้องเหมือนกับหลายรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา
“ข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐก็ปรับตัวโกงได้ทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าใครจะขึ้นมามีอำนาจก็ตาม อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นแสงสว่างเมื่อผลการเอาจริงเอาจังต่อเนื่องมีการจัดการเอาผิดกับข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองระดับสูง ไปสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเห็นเป็นตัวอย่าง แต่ความเชื่อมั่นของประชาชนยังไม่เพิ่มมากพอ และถ้าปล่อยให้มีขบวนการโกงอยู่ได้อย่างดีต่อไป ทัศนคติยอมรับเชิดชูคนโกง “ชั่วก็ชม” ถ้าตนเองได้รับผลประโยชน์จะเป็นตัวกัดกร่อนทำลายเสาหลักของชาติแท้จริง ทางออกคือ หนุนเสริมพลังคนในโลกโซเชียล ยุคดิจิทัลใช้พลังอำนาจที่ไม่ใช่อำนาจรัฐ (Non-State Power) เข้ามาทำงานร่วมกับอำนาจรัฐที่ดี (Good State Power) กลายเป็น อำนาจแห่งชาติ (National Power) สะสางเอาผิดข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองโกงไม่ให้มีที่ยืนในใจของประชาชนและไม่มีทางกลับมาอยู่ในแผ่นดินไทยได้อีก” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
