“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เอาชนะ เมียนมา 4-0 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” นัดที่ 2 กลุ่มเอ ที่สิงคโปร์ เนชั่นแนล สเตเดียม ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม
ทีมไทยลงเล่นไปแล้ว 1 นัดชนะติมอร์เลสเต 1-0 ส่วนเมียนมานั้นผ่านมาแล้ว 2 เกม แพ้สิงคโปร์ 0-3 ก่อนชนะติมอร์เลสเต 2-0
เกมนี้ มาโน่ โพลกิ้ง มาในระบบ 4-2-2-2 ประกอบด้วยผู้รักษาประตู ฉัตรชัย บุตรพรม แนวรับจากขวาไปซ้าย นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, มานูเอล ทอม เบียร์ห, กฤษดา กาแมน, ธีราทร บุญมาทัน กองกลางตัวรับ 2 คน พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล กับ สารัช อยู่เย็น กองกลางตัวรุก 2 คน ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ คู่ศูนย์หน้า ธีรศิลป์ แดงดา และ ศุภชัย ใจเด็ด
ด้านเมียนมา ภายใต้การคุมทีมของอองตวน เฮย์ โค้ชชาวเยอรมัน นำโดย มอง มอง ลวิน กัปตันทีม และ ตัน เพียง ที่ทำประตูในเกมพบกับติมอร์เลสเตที่ผ่านมา
เริ่มเกมไทยเพรสซิ่งหนักทันที แต่เมียนมาก็เน้นตั้งรับอย่างเหนียวแน่น จนไทยมาได้ประตูขึ้นนำนาทีที่ 23 จากจังหวะที่ชนาธิปแทงทะลุช่องให้นฤบดินทร์ทางขวา ก่อนจะเปิดเข้ากลางให้ธีรศิลป์ จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดตรงบริเวณกรอบเขตโทษบอลเรียดเข้าประตูไปอย่างสวยงามให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ไทยจะได้โอกาสยิงอีกหลายครั้งแต่ยังไม่คมพอ ทำให้จบครึ่งแรกนำ 1-0
ครึ่งหลังไทยยังบุกต่อเนื่องและมาได้จุดโทษในนาทีที่ 51 จากจังหวะที่ทอม เบียร์ วิ่งเข้าไปจะซ้ำลูกยิงของธนวัฒน์ แต่โดนเตะเข้าลำตัว ก่อนที่ธีรศิลป์จะสังหารไม่พลาดให้ไทยนำ 2-0 และยังเป็นประตูที่ทำให้ธีรศิลป์ยิงในรายการนี้ 17 ประตูเทียบเท่าสถิติสูงสุดของ นอร์ อลัม ชาห์ ตำนานดาวยิงสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นไทยเริ่มถอดผู้เล่นตัวหลักอย่างชนาธิป, ธนวัฒน์ออก ก่อนที่จะมาได้ประตูที่ 3 นาทีที่ 78 จากจังหวะที่สุภโชค สารชาติ ตบเข้ากลางให้วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ยิงจังหวะเดียวไม่จับยัดเสาแรกเข้าประตูไป
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บไทยมาได้ประตูปิดท้าย จากการยิงเหน่งๆ ของสุภโชค เข้าประตูไปให้ทีมชาติไทย เอาชนะเมียนมา 4-0 เก็บชัยชนะ 2 นัดรวด
ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง ฟิลิปปินส์ ถล่มติมอร์เลสเต 7-0 ทำให้ในกลุ่มเอ ไทยกับสิงคโปร์ลงเล่น 2 นัดมี 6 คะแนนเท่ากัน ขณะที่ฟิลิปปินส์ มี 3 คะแนนจาก 2 นัด เมียนมา 3 คะแนนจาก 3 นัด ส่วนติมอร์เลสเต ยังไม่มีคะแนน
นัดต่อไป วันที่ 14 ธันวาคม ทีมชาติไทย จะพบกับ ฟิลิปปินส์ เวลา 16.30 น. ขณะที่ ติมอร์เลสเต จะพบกับสิงคโปร์ เวลา 19.30 น
