“ชุติมา”วอนรัฐบาลใหม่สานต่อแผนผลิตข้าวครบวงจร

  • ยัน5ปีที่ผ่านมาข้าวไทยพัฒนาดีขึ้นทั้งระบบ
  • ลั่น”ประกันรายได้”ทำได้แต่ต้องไม่ตั้งราคาสูงเกิน
  • ไม่บิดเบือนตลาด-หวั่นทำรัฐบาลพังซ้ำรอยจำนำ

”ชุติมา” ฝากงานรัฐบาลใหม่สานต่อแผนผลิตข้าวครบจงวรของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ที่เน้นการตลาดนำการผลิต เหตุ 5 ปี พิสูจน์ให้เห็นอุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งระบบดีขึ้น ยันถ้าจะทำ “ประกันรายได้” ก็ได้แต่ต้องไม่กำหนดราคาสูงเกินจนบิดเบือนกลไกตลาด และมัดคอรัฐบาลจนตายเหมือนรับจำนำ เชื่อ “จุรินทร์” ทำหน้าที่รมว.พาณิชย์ได้แน่ เหตุมีทีมข้าราชการแข็งแกร่งคอยหนุน

 น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวประจำสัปดาห์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะหมดวาระว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่ เดินหน้าสานต่อแผนการผลิตข้าวแบบครบวงจร ที่ใช้การตลาดนำการผลิต (Demand Driven) เหมือนที่รัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการมาช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ปี 58-62 เพราะทำให้อุตสาหกรรมข้าวของไทยมีการพัฒนาที่ดีขึ้น ข้าวไทยมีคุณภาพดีขึ้น มีหลากหลายพันธุ์มากขึ้น ที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าไทยและต่างประเทศ เช่น ข้าวกข. 43, ข้าวอินทรีย์, ข้าวสีต่างๆ อย่างข้าวไรซ์เบอร์รี่ ฯลฯ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ช่วยเหลือในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับชาวนา ช่วยเหลือในการลดต้นทุนการผลิต สร้างความเป็นธรรมในระบบการค้าข้าว รวมถึงส่งเสริมให้นำข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เช่น น้ำนมข้าว อาหารเด็ก อาหารผู้สูงอายุ เครื่องสำอาง ฯลฯ ส่งผลให้ข้าวมีเสถียรภาพด้านราคามากขึ้น

”ถ้ารัฐบาลใหม่ จะมีมาตรการใหม่ๆ เข้ามาเสริมเพื่อพยุงราคาก็ทำได้ แต่ต้องไม่บิดเบือนกลไกตลาด อย่างประกันรายได้ ถ้าจะทำ รัฐบาลต้องพิจารณาให้ดีว่าทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่ และต้องกำหนดแนวทางดำเนินการที่รอบคอบ รัดกุมที่สุด ที่สำคัญต้องไม่กำหนดราคาประกันสูงเกินไปจนกลายเป็นภาระของรัฐบาลเหมือนการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา”

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีชื่อจะได้เป็นว่าที่รมว.พาณิชย์คนใหม่ แต่มีความเชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศไม่มากนัก ขณะที่ในปีนี้ไทยต้องเป็นประธานอาเซียน และรมว.พาณิชย์ต้องเป็นประธานรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนนั้น กระทรวงพาณิชย์มีความกังวลใจหรือไม่ น.สงชุติมา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์คงไม่มีอะไรกังวลใจไม่ว่าใครจะมานั่งรมว.พาณิชย์ก็สามารถทำงานต่อได้ เพราะกระทรวงพาณิชย์มีทีมงานที่เก่ง อย่างในเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ทีมข้าราชการทำงานมานานแล้ว และมีความเชี่ยวชาญมาก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการทำงานของรมว.พาณิชย์ได้เป็นอย่างดี