- ชาวนาผู้ปลูกข้าวเปลือก 5 ชนิดได้กันถ้วนหน้า
- หลังราคาอ้างอิงยังต่ำกว่าราคาประกันรายได้
- ข้าวหอมมะลิรับสูงสุดครัวเรือนละกว่า 3.6 หมื่นบาท
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือกปี 63/64 ที่มีนายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน ได้ประชุมเพื่อกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสำหรับการจ่ายชดเชยส่วนต่างราคาให้กับเกษตรกรตามโครงการประกันรายได้ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้จ่ายส่วนต่างรายได้ให้กับผู้ปลูกข้าวเปลือกทั้ง 5 ชนิด เป็นงวดที่ 7 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งการเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 14-20 ธ.ค.63 หลังจากราคาอ้างอิงยังต่ำว่าราคาประกัน
สำหรับส่วนต่างรายได้ที่เกษตรกรจะได้รับในงวดที่ 7 นั้น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอ้างอิงตันละ 12,425.46 บาท จากราคาประกันตันละ 15,000 บาท มีส่วนต่างที่ต้องชดเชยตันละ 2,574.54 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 36,043.56 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาอ้างอิงตันละ 11,982.48 บาท จากราคาประกันตันละ 14,000 บาท ชดเชยตันละ 2,017.52 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 32,280.32 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า ราคาอ้างอิงตันละ 9,429.59 บาท ราคาประกันตันละ 10,000 บาท ชดเชยตันละ 570.41 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 17,112.30 บาท
ส่วนข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาอ้างอิงตันละ 10,465.25 บาท ราคาประกันตันละ 11,000 บาท ชดเชยตันละ 534.75 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 13,368.75 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคาอ้างอิงตันละ 11,400.10 บาท ราคาประกันตันละ 12,000 บาท ชดเชยตันละ 599.90 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 9,598.40 บาท โดยมีเกษตรกรได้รับเงินชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้รวม 76,551 ครัวเรือน
“หลังจากออกประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีของพี่น้องเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือตรงกับวันที่ 24 ธ.ค.63 พี่น้องเกษตรกรสามารถตรวจสอบได้ทันที สำหรับโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวเปลือกปีนี้ รัฐบาลดำเนินต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยได้เริ่มจ่ายเงินชดเชยรายได้งวดแรกตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.63 และจ่ายทุกสัปดาห์ งวดนี้เป็นงวดที่ 7 แล้ว น่าจะเป็นงวดสุดท้ายของปีนี้ งวดต่อไป จะเริ่มสัปดาห์แรกของปี 64 มีชาวนาที่ยังรอการเก็บเกี่ยว และได้รับเงินชดเชยอีกไม่มากนัก”
