“ชัยวุฒิ” เร่งขับเคลื่อนใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้เกษตรกรและชุมชน

  • ลงพื้นที่ “เชียงราย”​ติดตามงาน “เกษตรดิจิทัล” ที่ศูนย์ฝึกอบรมผาหมี
  • ตรวจเยี่ยมและมอบศูนย์ดิจิทัลชุมชนให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
  • เร่งขับเคลื่อนเป้าหมายใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างประโยชน์ครอบคลุมทุกภาคส่วนของไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วยเลขานุการรัฐมนตรี นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายสุทธิศักดิ์ ตันะโยธิน รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนามแห่งชาติ (กสทช.) และผู้ประกอบการโทรคมนาคม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ดิจิทัลชุมชน ณ จังหวัดเชียงราย และเป็นประธานในพิธีเปิด และมอบครุภัณฑ์ศูนย์ดิจิทัลชุมชน องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย และเทศบาลตำบลเวียง ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าการนำร่อง “เกษตรดิจิทัล” ณ ศูนย์ฝึกอบรมผาหมี จังหวัดเชียงราย  

โดยนายชัยวุฒิ กล่าวว่า ดีอีเอส ได้รับมอบนโยบายจากรัฐบาลในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย เพื่อต่อยอดการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G สู่การพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับเซคเตอร์สำคัญๆ ของประเทศ โดยหนึ่งในนั้นคือ ด้านการเกษตร มุ่งสร้างให้เกิดเกษตรเชิงรุกด้วยนวัตกรรมดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการเกษตรแบบเชิงรุก ตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ เพื่อเพิ่มมูลค่าและต่อยอดภาคเกษตร

ทั้งนี้ ดีอีเอส ได้ดำเนินการนำร่องเกษตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G ณ ศูนย์ฝึกอบรมผาหมี จังหวัดเชียงราย เป็นการดำเนินการนำร่องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G พื้นที่แรก โดยดำเนินการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ผู้ให้บริการโครงข่าย และเจ้าของพื้นที่ มีวัตถุประสงค์ที่จะนำโครงข่ายเทคโนโลยี 5G และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับมาสร้างมิติใหม่ในการส่งเสริมการเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการเพาะปลูก อาทิ การพัฒนาแนวทางการปลูกพืช โดยเฉพาะพืชที่มีมูลค่าสูงให้สอดคล้องกับต้นทุน การบริหารจัดการแปลงเพาะปลูกให้มีความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือการสนับสนุนการวิเคราะห์และรายงานผล

ปัจจุบันศูนย์ฝึกอบรมผาหมี เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชมูลค่าสูง ที่นับเป็นต้นกำเนิดของผลผลิตหลากหลายของโครงการพัฒนาดอยตุง อาทิ กาแฟ แมคคาเดเมีย วานิลลา บุก โกโก้ พืชผักเมืองหนาวปลอดสารพิษ ฯลฯ

“การผนึกกำลังนำ 5G ไปยกระดับเกษตรดิจิทัล นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญ เนื่องจาก ภาคการเกษตรเป็นภาคส่วนที่ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ความสำเร็จในในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทย ทั้งจากภาครัฐ ผู้ให้บริการเครือข่าย และเจ้าของพื้นที่ ซึ่งจะนำไปสู่การลดปัญหาความยากจน สร้างองค์ความรู้ สร้างความเท่าเทียม และสร้างรายได้ให้เกษตรกร รวมถึง เป็นการสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป”  

สำหรับโครงการนำร่องเกษตรดิจิทัลฯ ณ ศูนย์ฝึกอบรมผาหมี จะจัดทำแปลงสาธิตปลูกต้นวานิลลา ซึ่งเป็นพืชที่มีมูลค่าสูง และแปลงเกษตรผสมผสานบนพื้นที่ 7 ไร่ โดยติดตั้งอุปกรณ์ดิจิทัลในทุกขั้นตอนของการทำงาน เพื่อเก็บข้อมูลและนำมาพัฒนาแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตจนถึงขั้นการแปรรูปสินค้าเพื่อจำหน่าย เช่น จำนวนต้น อุณหภูมิ ความชื้น การฉีดปุ๋ยบำรุงหรือสารกำจัดศัตรูพืช โดยมีการวิเคราะห์การเติบโต ระยะเวลาจัดเก็บและปริมาณผลผลิตที่จะได้รับ เป็นต้น

ทั้งนี้ มีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการเพาะปลูก เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการข้อมูลแบบอัตโนมัติอย่างครบถ้วนและเป็นระบบ และเพื่อศึกษา วิจัย พัฒนา และสร้างองค์ความรู้ ยกระดับสู่ศูนย์กลางการพัฒนาด้านการทดลองปลูกพืชมูลค่าสูง และการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เกษตรกรและชุมชนต่อไป

“ปี 2564 และปี 2565 เป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยี 5G เนื่องจาก จะเป็นปีที่ทุกภาคส่วนเร่งมือขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จาก 5G อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ และที่สำคัญช่วงที่ผ่านมาได้เห็นศักยภาพของ 5G ที่สามารถเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19”

นอกจากนี้ ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะนำพาประเทศไทยก้าวสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจรากฐานของประเทศให้เข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพสูงครอบคลุมทั่วประเทศที่ทุกคนเข้าถึงได้ ดีอีเอส ในฐานะกระทรวงที่รับผิดชอบด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเป็นแกนหลักในการผลักดันให้เกิดสังคมแห่งการสร้างภูมิปัญญาและการเรียนรู้ (Knowledge Base Society)

โดยดำเนินโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน โดยการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชน ที่จัดตั้งอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ อาทิ วัด มัสยิด โรงเรียน สถานที่ราชการในท้องถิ่น และชุมชนที่เหมาะสม กระจายอยู่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 500 แห่ง เป็นศูนย์ดิจิทัลชุมชน เพื่อใช้เป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของเด็ก เยาวชน และประชาชนในชุมชน สามารถสืบค้นข้อมูล เรียนรู้ได้ด้วยตนเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และส่งเสริมการค้าขายสินค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน

อีกทั้ง ยังเป็นการขยายการให้บริการอินเตอร์เน็ต ทั้งทางด้านข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีไปสู่ส่วนท้องถิ่น และลดช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และให้ประชาชนในท้องถิ่นมีการเข้าถึงสารสนเทศ และบริการภาครัฐเพิ่มมากขึ้นด้วย

นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ในปี 2563 – 2564 สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้ดำเนินการขยายผลและยกระดับศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวนรวม 500 ศูนย์ และได้คัดเลือก องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย และเทศบาลตำบลเวียง ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นหนึ่งในจำนวน 500 ศูนย์ ของโครงการยกระดับศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน

โดยได้จัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับบริบท และวัฒนธรรมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงไป เพื่อใช้ในการผลักดันประชาชนในพื้นที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และมุ่งหวังให้ศูนย์ดิจิทัลชุมชนสามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนในชุมชน ให้มีความเข้มแข็งในด้านต่าง ๆ อาทิ เป็นกลไกประชารัฐในการสร้างโอกาสให้ประชาชนและรัฐ ร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างความร่วมมือ ร่วมใจของรัฐและประชาสังคม เพื่อร่วมพัฒนาและแก้ปัญหาเศรษฐกิจเละขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล

รวมทั้ง สร้างโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีบทบาทในเรื่องของการพัฒนาและแก้ไขปัญหาชุมชนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างรายได้/สร้างงาน ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการเป็นศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการในชุมชน เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงกลุ่มอาชีพต่างๆ ในชุมชน สนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสู่เป้าหมายในการยกระดับสู่ SMEs และการเป็นอุตสาหกรรม ด้วยการจัดทำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์สำหรับชุมชน เป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารของชุมชนที่มีการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร และองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ของชุมชน และเป็นแหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต

#Thejournalistclub #เกษตรดิจิทัล #ศูนย์ดิจิทัลชุมชน #ดีอีเอส #5G