ชวนชาวสวนปลูก “มันเทศ :กวก. พิจิตร 3” สร้างรายได้

กรมวิชาการเกษตร โชว์มันเทศพันธุ์ใหม่ “กวก. พิจิตร 3” ผลผลิตสูง  หัวใหญ่ตอบโจทย์ตลาด รสชาติถูกใจผู้บริโภค เพิ่มรายได้เกษตรกร

  • นิยมปลูกเป็นพืชรองเสริมกับพืชหลัก
  • เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร
  • พืชอายุสั้นให้ผลตอบแทนเร็ว

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า มันเทศเป็นพืชอาหารและพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญชนิดหนึ่งของโลก ผลผลิตส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตแป้ง อีกทั้งใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลโดยผลผลิตมันเทศ 1 ตันสามารถผลิตเอทานอลได้ 160-170 ลิตร อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศไทยผลิตมันเทศในสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับประเทศผู้ผลิตรายอื่นโดยการปลูกมันเทศของไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกเป็นพืชรองเสริมกับพืชหลักเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร เป็นพืชอายุสั้นให้ผลตอบแทนเร็ว ในบางช่วงถ้าราคาสูงอาจให้ผลตอบแทนสูงกว่าพืชหลัก

สำหรับ แหล่งปลูกมันเทศที่สำคัญของไทยพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออก  เกษตรกรนิยมปลูกหลากหลายสายพันธุ์  ซึ่งพันธุ์เหล่านี้มีคุณภาพการบริโภคหรือประกอบอาหารรสชาติดีตรงกับความต้องการของผู้บริโภค แต่ให้ผลผลิตต่ำ ดังนั้น เพื่อให้ได้พันธุ์มันเทศสำหรับบริโภคสดพันธุ์ใหม่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร กรมวิชาการเกษตร จึงได้ทำการปรับปรุงพันธุ์มันเทศ โดยการผสมข้ามมันเทศพันธุ์ดีจากแปลงรวบรวมพันธุ์ และคัดเลือกมันเทศเพื่อการบริโภคสด ที่ให้ผลผลิตสูง หัวมีคุณภาพดีตรงกับความต้องการของตลาด พร้อมกับปรับตัวได้ดีกับสภาพพื้นที่สำหรับแนะนำส่งเสริมและกระจายพันธุ์มันเทศพันธุ์ดีให้เกษตรกรปลูกเป็นการค้า  โดยเริ่มดำเนินการวิจัยปรับปรุงพันธุ์ในปี 2554 และเสนอพิจารณาเป็นพันธุ์แนะนำในปี 2566 ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตรวันที่ 8  สิงหาคม 2566 ใช้ชื่อพันธุ์มันเทศพันธุ์ใหม่ว่า “กวก. พิจิตร 3”

ส่วนมันเทศพันธุ์ กวก. พิจิตร 3 ได้จากการผสมเปิดของมันเทศพันธุ์ พจ.166-5 ในปี 2554 ทำการผสมพันธุ์มันเทศ ใช้พันธุ์มันเทศเนื้อสีขาวสำหรับเป็นพ่อแม่พันธุ์ 9 พันธุ์ ปี 2556 ทำการเปรียบเทียบพันธุ์เบื้องต้น ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร ปี 2557-2558  เปรียบเทียบพันธุ์ในศูนย์/สถานี มีสายต้นคัดเลือก 8 สายต้น ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกาญจนบุรี และศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ปี 2559-2560 ปลูกทดสอบในแปลงเกษตรกรจังหวัดพิจิตร จำนวน 6 แปลง จนได้มันเทศพันธุ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติตามวัตถุประสงค์การปรับปรุงพันธุ์

มันเทศพันธุ์ กวก. พิจิตร 3 มีลักษณะเด่น  ให้ผลผลิตเฉลี่ย 3,282 กิโลกรัมต่อไร่ มากกว่าพันธุ์ท้องถิ่น (มันกระต่าย)  ซึ่งให้ผลผลิตเฉลี่ย 2,676 กิโลกรัมต่อไร่  หรือมากกว่าร้อยละ 22.6 มีปริมาณขนาดหัวที่ตลาดต้องการ  โดยมันเทศสำหรับตลาดต้องการ ต้องมีขนาดกลาง (M) ถึงขนาดใหญ่ (L) (เส้นผ่านศูนย์กลางหัวมากกว่า 2.50 เซนติเมตร) ลงหัวดกสม่ำเสมอ เนื้ออ่อนนุ่ม รสชาติหวานปานกลาง

ทั้งนี้ หากปลูกในช่วงปลายฤดูฝนจะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด (กันยายน-พฤศจิกายน) มันเทศจะให้ผลผลิต และคุณภาพการบริโภคทั้งลักษณะเนื้อ และรสชาติดีกว่าฤดูปลูกอื่น  และเนื่องจากมันเทศพันธุ์ กวก. พิจิตร 3 มีลักษณะหัวยาว ลงหัวลึก ดังนั้นการเตรียมแปลงปลูกควรยกร่องสูงไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร   ปัจจุบันมีแปลงแม่พันธุ์พร้อมที่จะขยายยอดพันธุ์ต่อได้ตลอด โดยในปี 2566 สามารถผลิตยอดพันธุ์ 30,000 ยอด ปลูกได้จำนวน 6 ไร่