“จุรินทร์” ย้ำชาวสวนยางพาราบัตรชมพูเตรียมเฮ!

  • ชงครม.8 ธ.ค.นี้ไฟเขียวให้เข้าร่วมโครงการประกันรายได้ 
  • มีสิทธิ์ได้เงินชดเชยส่วนต่างรายได้เหมือนผู้ถือบัตรสีเขียว 
  • แจ้งข่าวดี!ธ.ก.ส.เตรียมกดปุ่มโอนเงินให้ 11 ธ.ค.นี้แน่นอน 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 8 ธ.ค.นี้ กระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกยางพารา จะเสนอให้ครม.พิจารณาเห็นชอบให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราที่ถือบัตรสีชมพู (เกษตรกรปลูกยางพาราในที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์) สามารถเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เช่นเดียวกับเกษตรกรที่ถือบัตรสีเขียว (ปลูกยางพาราในที่ดินมีเอกสารสิทธิ์) คาดว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไร และจะมีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยส่วนต่างเช่นเดียวกับผู้ถือบัตรสีเขียว โดยธนาคารเพื่อการเกสรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินชดเชยส่วนต่างงวดแรกให้ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.63 และจะจ่ายต่อไปทุกเดือน เป็นเวลา 6 เดือน 

สำหรับสถานการณ์ราคายางพาราขณะนี้ ถือว่าปรับตัวดีขึ้นมาก โดยล่าสุด ยางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัม (กก.) ละ 62-63 บาท ส่วนราคารับประกันกก.ละ 60 บาท ส่วนราคาส่งออกแบบเอฟโอบี (ณ ท่าเรือ) กก.ละ 72 บาท, น้ำยางสด กก.ละ 55-58 บาท ราคาประกันกก.ละ 57 บาท และยางก้อนถ้วย กก.ละ 21-23 บาท ราคาประกันกก.ละ 23 บาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการประกันรายได้ผู้ปลูกยางพาราระยะที่ 2 นั้น ครม.ได้อนุมัติวงเงินให้ดำเนินโครงการตามที่กระทรวงเกษตรฯเสนอเมื่อวันที่ 3 พ.ย.63 รวม 10,042 ล้านบาท จำนวนเกษตรกรชาวสวนยาง 1.8 ล้านราย ระยะเวลาโครงการ 6 เดือน เริ่มเดือนต.ค.63-มี.ค.64 กำหนดจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างงวดแรกวันที่ 26-27 พ.ย.63 จำนวน 2,116 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถจ่ายเงินได้ เพราะสำนักงบประมาณเห็นว่า ไม่ควรจ่ายให้เกษตรกผู้ถือบัตรสีชมพู ควรจ่ายให้เฉพาะผู้ถือบัตรสีเขียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กระทรวงเกษตรฯได้หารือกับนายกรัฐมนตรี และเห็นชอบให้จ่ายเงินให้ผู้ถือบัตรสีชมพูเช่นเดียวกับโครงการปีก่อน และจะเสนอให้ครม.เห็นชอบในการประชุมวันที่ 8 ธ.ค.นี้