“จตุพร” บุกคลัง ยื่นหนังสือ รมว.คลัง ใช้อำนาจแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน



  • เป็นผู้ถือหุ้นปตท.โดยตรงและโดยอ้อม
  • เสนอปรับโครงสร้างราคา ลดราคาค่ากลั่น
  • “ชื่นชอบ คงอุดม” รับเรื่องราวร้องเรียนไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2565 นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ตัวแทน ประเทศไทยต้องมาก่อน คณะหลอมรวมประชาชน เดินทางมาที่กระทรวงการคลัง เพื่อยื่นหนังสือถึง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะเป็นหน่วยงานรัฐที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  ให้ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายมาแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน โดยมีนายชื่นชอบ คงอุดม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับหนังสือแทน

ขณะที่คณะหลอมรวมประชาชน ได้เรียกร้องให้กระทรวงการคลังเรียกประชุมผู้ถือหุ้น ปตท. ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ปรับโครงสร้างราคา ลดราคาค่ากลั่น ยกเลิกราคาสมมติอ้างอิงสิงคโปร์และซาอุดีอาระเบีย หากทำไม่ได้ขอให้คืนกิจการพลังงาน ทรัพยากรพลังงานให้เป็นของประชาชน 

โดยนายจตุพร  กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีบอกน้ำมันแพงเป็นปัญหาทั่วโลกว่า หากแก้ปัญหาไม่ได้ก็ควรลาออกให้คนที่แก้ไขได้เข้ามาทำงานแทน เพราะถือว่าขาดประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ชวนให้คนไทยช่วยกันเข็นรถประเทศไทยไปข้างหน้าว่า ในฐานะนายกฯ เป็นผู้ถือพวงมาลัยและกำลังหันหัวรถลงเหว จึงขอชวนคนไทยลงจากรถและช่วยเข็นรถที่นายกฯขับลงเหวไปคนเดียว ไม่ใช่พาประชาชน ประเทศชาติลงเหวไปด้วย

สำหรับรายละเอียดของการยื่นหนังสือถึง รมว.คลัง มี 3 ข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย 1. ให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ปตท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ และบริษัทที่ถือหุ้นโดยตรงและโดยอ้อม และมีอิทธิพลต่อการบริหารธุรกิจน้ำมัน เป็นผู้มีบทบาทชี้นำต่อกลุ่มทุนพลังงานและผู้ถือหุ้นว่าต้องดำเนินกิจการตามหลักธรรมาภิบาล 2.นำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)​ไปปรับปรุงแก้ไขการกำกับราคาพลังงาน โดยห้ามโรงกลั่นบวกกำไรเพิ่มขึ้นจากเนื้อน้ำมัน ให้โรงกลั่นบวกกำไรเพิ่มขึ้นได้เฉพาะจากต้นทุนการกลั่นที่เป็นจริง โดยมีการกำหนดเพดานราคาบนพื้นฐานที่ไม่กระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน และ 3.เสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดเก็บภาษีลาภลอยกับกลุ่มทุนพลังงาน น้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี ที่ได้รับประโยชน์จากกำไรเกินสมควรอันไม่เป็นธรรม  เพื่อนำภาษีดังกล่าวมาช่วยลดราคาพลังงานและค่าครองชีพประชาชน