คลัง ใจดี”ชิมช้อปใช้” เฟส2ลงทะเบียนได้ทุกคน!

  • คนได้สิทธิ์ 10 ล้านคนแรกก็มีสิทธิ์ลงทะเบียนเฟส2 
  • ไม่ต้องอดนอน! เปลี่ยนเวลาลงทะเบียนเป็นช่วงกลางวัน
  • สศค.เผยยอดใช้จ่าย 14 วัน สะพัด 4,000 ล้านบาท

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว ”ชิมช้อปใช้” ระยะที่ 2 หรือเฟส 2 นั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาถึงข้อเสนอต่างๆ  และปัจจุบันยังไม่ได้ข้อยุติ โดยสั่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ธนาคารกรุงไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูรายละเอียดให้ชัดเจนทั้งการเพิ่มวงเงิน (Cash back) ให้มากขึ้น จากเฟสแรกให้เงินคืน 15% ของยอดใช้จ่ายสูงสุดไม่เกิน 4,500 บาท วงเงินรวม 30,000 บาท  ว่าควรจะมีเงื่อนไขอย่างไร  และการนำยอดใช้จ่ายมาลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งแนวทางทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนพิจารณา คาดว่าจะสรุปและนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายในเดือนต.ค.นี้

“ชิมช้อปใช้เฟส 2 จะมีรูปแบบสิทธิประโยชน์อาจไม่เหมือนชิมช้อปใช้ในเฟสแรก แต่ทุกอย่างจะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการคือ ช่วยหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้น ‪0.2-0.3‬% โดยในเฟส 2 จะเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองรองให้เกิดการจับจ่ายซื้อของมากขึ้น และอาจจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือน ธ.ค.62 ”

อย่างไรก็ตามเรื่องจำนวนนั้นผู้ลงทะเบียนในเฟส 2 คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนไม่ถึง 10 ล้านคน อย่างมากสุดแค่ 5 ล้านคน และจะเปิดกว้างให้ผู้ที่ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ในเฟสแรก จำนวน 10 ล้านคนที่ได้รับสิทธิ์จากมาตรการแรกไปแล้ว สามารถลงทะเบียนในชิมช้อปใช้เฟสสองได้เช่นกัน เนื่องจากกระทรวงการคลังต้องการให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

            “เรื่องการปรับเวลาลงทะเบียนจากช่วงเวลากลางคืนมาเป็นช่วงเวลากลางวัน ผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และสั่งให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องระบบรับทราบเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องงบประมาณยังไม่ได้ดูว่าจะนำเงินจากส่วนใดมาใช้”

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียน“ชิมช้อปใช้” ครบจำนวนทุกวัน โดยตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.2562 เป็นต้นมา ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนเก็บตกตามสิทธิ์ที่ยังคงเหลือ ซึ่งล่าสุดมีผู้ได้รับสิทธิ์ใกล้ครบจำนวน 10 ล้านคนแล้ว โดยปัจจุบันยอดลงทะเบียนเก็บตกสิทธิ์เหลือไม่ถึง 300 คนแล้ว

            สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ลงทะเบียน 14 วันแรก(23 ก.ย-6ต.ค.62)เสร็จสิ้นแล้ว โดยมีผู้ได้รับสิทธิ์ 9.939 ล้านคน ซึ่งผู้ลงทะเบียน 13 วันแรก(23ก.ย.-8ต.ค.62)ได้รับข้อความ SMS ยืนยันสิทธิ์แล้วจำนวน 9.69 ล้านคน ทั้งนี้ มีผู้เข้ายืนยันตัวตนในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว 8.85 ล้านคน โดยยืนยันตัวตนสำเร็จ 7.93 ล้านคน และมีผู้ที่ยังไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชัน 839,773 คน

            ส่วนการใช้จ่าย 12 วันแรก(27ก.ย.-8ต.ค.62) มีผู้ใช้สิทธิ์จำนวน 4.53 ล้านคน มีการใช้จ่ายรวม 4,296 ล้านบาท แบ่งเป็น การใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”ช่องที่ 1 วงเงิน 1,000 บาท  ประมาณ 4,254 ล้านบาท และกระเป๋าเงินช่อง 2 ซึ่งจะคืนเงินให้ 15% ของยอดใช้จ่ายไม่เกิน 4,500 บาท มีจำนวน 15,027 คน ยอดใช้จ่ายประมาณ 42 ล้านบาท