คลัง ยังเกาะติด แบงก์สหรัฐฯล้ม เหตุมีธุรกิจไทยลงทุนในคริปโต 

  • ยอมรับข่าวปิดแบงก์ทำให้นักลงทุนตื่นตระหนก
  • ทำหุ้นไทย-ต่างประเทศ​ ลดลงอย่างหนัก
  • ย้ำรัฐบาลรักษาการพร้อมดูแลเต็มที่

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการสั่งปิดธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ธนาคารซิกเนอเจอร์ แบงก์ (Signature Bank)  และอยู่ระหว่างจับตาอีกหลายธนาคารในสหรัฐฯนั้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ซึ่งปรับตัวลดลงอย่างมากกว่า 50 จุดในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมานั้น ค่อนข้างแกว่างตัวแรง  เพราะนักลงทุนตื่นตระหนกตกใจไปทั่วโลก ต่อนักลงทุนที่มีความกังวลว่าอาจจะกระทบต่อระบบตลาดการเงินของโลก

“ผมได้หารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในกรณีนี้ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่มีสถาบันการเงินของไทยมีธุรกรรมกับทั้ง 2 ธนาคาร ในส่วนของเราตอนนี้ เท่าที่ประเมินดูจึงยังไม่มีผลกระทบอะไร รวมทั้งไม่มีผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ด้วย ส่วนที่คาดว่าสหรัฐฯ จะมีการปิดธนาคารเพิ่มเติมอีกหรือไม่ คงต้องติดตามดู”  

นายอาคม กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าแม้จะมีการยุบสภา เป็นรัฐบาลรักษาการ ก็มีหน้าที่จะต้องแก้ไขปัญหา ยังดำเนินการนโยบายต่าง ๆ ได้ หากมีผลกระทบจากกรณีดังกล่าวในระยะต่อไป แต่ก็หวังว่าสถานการณ์ของสหรัฐฯ จะไม่ลุกลามเป็นวงกว้าง โดยกรณีการปิดธนาคาร เป็นเพียงธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ ไม่ใช่ธนาคารขนาดใหญ่ จึงไม่มีผลกระทบอะไรมาก

ส่วนกรณีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในระยะต่อไปยังมีความจำเป็น หรือเป็นกังวลว่าจะประสบปัญหาเหมือนสหรัฐฯ หรือไม่นั้น นายอาคม ระบุว่า ผมทำงานที่กระทรวงการคลัง ไม่ได้เป็นคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ส่วนความห่วงใยเรื่องผลกระทบกับภาคการค้า ธุรกิจ เชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์อยู่