คลัง ขอประเมินสถานการณ์ก่อน หลังราคาน้ำมันดิบโลกพุ่ง 130 เหรียญสหรัฐฯ

  • ราคาน้ำมันพุ่งสูงสุดในรอบ 13 ปี
  • เกาะติดสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน
  • กระทรวงพลังงาน จะเป็นผู้ดูราคาใกล้ชิด

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้นเหนือระดับ 130 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งสูงสุดในรอบ 13 ปี จากกรณีสหรัฐอเมริกา และชาติตะวันตก เตรียมจะคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียนั้น เรื่องนี้ทางกระทรวงการคลังขอประเมินสถานการณ์ก่อนว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศอย่างไรบ้าง และจะจับตาดูทิศทางของราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามเรื่องราคาน้ำมันในประเทศกระทรวงพลังงานจะเป็นผู้ที่ดูแลอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ส่วนจะมีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือหากราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันโลกหรือไม่นั้น จะต้องรอดูแนวทางของกระทรวงพลังงานว่าจะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการตรึงราคาไว้ให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยรักษาเสถียรภาพด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และอนุมัติให้ลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาทต่อลิตร